บรรยากาศการชุมนุมของ “ม็อบ31ตุลา” มีการจัดกิจกรรมตั้งแต่ช่วงบ่าย โดยผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันที่แยกราชประสงค์เพื่อทำกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์ให้ยกเลิกกฎหมายมาตรการ 122
ขณะที่ นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ่ง แกนนำคณะราษฎร ได้อ่านแถลงการณ์ยกเลิกมาตรา 112 หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจำลอง เพื่อเรียกร้องต่อตุลากรกับรัฐสภา ให้สิทธิประกันตัวและปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง พร้อมกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา และยกเลิก ม.112 ดังนั้นคณะราษฎรจึงผนึกกำลังกันเพื่อรวบรวมรายชื่อเสนอกฎหมายและการประกันตัวของนักโทษทางการเมือง
จากนั้น “รุ้ง-ปนัสยา” ได้ทำการกรีดแขนเป็นตัวเลข “112” เพื่อย้ำว่าเป็นแถลงการณ์ที่เขียนด้วยเลือดและชีวิต พร้อมย้ำว่าเป็น “แถลงการณ์เลือด”
ด้านนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข หนึ่งในแกนนำที่จัดการชุมนุม กล่าวบนเวทีว่า เสียงของประชาชนเรียกร้องต่อตุลาการ ให้ปล่อยตัวเพื่อนเราที่ถูกกุมขังในเรือนจำ เพราะคำตัดสินยังไม่สิ้นสุด ทุกคนจึงต้องถูกปฏิบัติแบบผู้บริสุทธิ์
ทั้งนี้ทนายที่เข้าเยี่ยมผู้ถูกกุมขังในเรือนจำได้ให้แกนนำได้พูด หลังทนายได้เข้าพบครั้งละไม่กี่นาทีในแต่ละครั้ง โดย”เพนกวิน”นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มราษฎร ได้ฝากข้อความมาว่า หลายคนที่ถูกจับกุมด้วย ม.112 เพราะตั้งคำถามต่างๆ หรือการแสดงออกเชิงสัญลักษณต่างๆ แต่ละคนก็ถูก ม.112 บังคับใช้แบบครอบจักรวาล จึงชี้ชัดว่า ม.122 จึงมีปัญหาต่อทุกคน มีอัตราโทษสูง ที่ใช้ปิดปากฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
หากตั้งคำถามต่อโครงสร้างทางการเมือง จึงละเมิดสิทธิ ที่สร้างรอยร้าวในสังคม ความเจ็บปวด ที่ยากจะสมานรักษา สร้างความเสื่อมถอยต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยด้วย เพราะปกปิดความจริง แต่พวกเขายังกล้าหาญวางอิสรภาพเป็นเดิมพัน หากเรารักในสิทธิเสรีภาพจึงต้องยกเลิก ม.112 เพื่อปลดโซ่ตรวนพันธนาการให้คนไทย เพื่อให้ประเทศไทยมีที่ยืนในสิทธิมนุษยชนในสากลด้วย รวมทั้งปกป้องไม่ให้มีการใช้ ม.112 ต่อคนที่เรารักและคนรอบตัวเรา ดังนั้นจึงขอรวบรวมรายชื่อให้ได้ 1 ล้านชื่อ เพื่อไม่ให้ใครถูกกลั่นแกล้ง และทุกข์ทรมานจาก ม.112 อีก.
อย่างไรก็ตามแอมเนสตี้จะนำรายชื่อประชาชนร่วมลงชื่อยกเลิก ม.112 ไปยื่นที่ทำเนียบรัฐบาลพรุ่งนี้ (1พ.ย.64) เวลา 10.00 น.