เจ้าหญิงมาโกะแห่งญี่ปุ่น เข้าพิธีแต่งงานกับเคอิ โคมุโระ แฟนหนุ่มที่รักกันมาตั้งแต่สมัยศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้พระองค์สูญเสียสถานภาพในราชวงศ์ และกลายเป็นสามัญชนคนธรรมดา
ภายใต้กฎหมายของญี่ปุ่น สมาชิกราชวงศ์ฝ่ายหญิง จะสูญเสียสถานภาพในราชวงศ์เมื่อแต่งงานกับ "สามัญชน" ขณะที่สมาชิกฝ่ายชายไม่ต้องสูญเสียในส่วนนี้
นอกจากนั้น เจ้าหญิงยังไม่ขอเข้าพิธีเสกสมรสของทางราชวงศ์ รวมทั้งยังปฏิเสธที่จะรับเงินที่ราชวงศ์เสนอให้กับราชวงศ์ฝ่ายหญิง เมื่อพวกเธอจะออกจากราชวังไป
เจ้าหญิงมาโกะ เป็นสมาชิกหญิงองค์แรกของราชวงศ์ที่ทรงปฏิเสธในทั้งสองเรื่องนี้
หลังแต่งงาน คาดว่าทั้งคู่จะย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งฝ่ายชายทำงานเป็นทนายความ เรื่องนี้ทำให้เกิดการเปรียบเทียบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้กับกรณีของเมแกน มาร์เคิล และเจ้าชายแฮร์รี่ ในฝั่งราชวงศ์อังกฤษ ทำให้คู่บ่าวสาวได้รับฉายาว่า "แฮร์รี่และเมแกนแห่งญี่ปุ่น"
เช่นเดียวกับเมแกน มาร์เคิล โคมุโระได้รับการตรวจสอบจากประชาชนอย่างละเอียดถี่ถ้วนนับตั้งแต่มีการประกาศเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเจ้าหญิงมาโกะ ล่าสุดเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องทรงผมแบบมัดจุก เมื่อเขากลับมาญี่ปุ่นเพื่อเข้าพิธีแต่งงาน
บางคนรู้สึกว่าทรงผมของเขาไม่เหมาะกับคนที่กำลังจะแต่งงานกับเจ้าหญิง
เจ้าหญิงมาโกะ ทรงออกจากที่ประทับในกรุงโตเกียวเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันอังคาร ( 26 ตุลาคม ) เพื่อไปจดทะเบียนสมรส งานนี้ พระองค์ทรงทำพิธีคำนับพระบิดา พระมารดา ซึ่งก็คือมกุฎราชกุมารฟุมิฮิโตะ และเจ้าหญิงกิโกะหลายครั้ง นอกจากนี้ พระองค์ก็ยังกอดพระขนิษฐาก่อนที่จะออกไปด้วย
ทั้งคู่คาดว่าจะแถลงข่าวในวันอังคารนี้ โดยทั้งสองจะกล่าวเปิดการแถลงงานสั้น ๆ และให้คำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรสำหรับคำถามที่ส่งมาล่วงหน้าที่ได้เลือกมา 5 ข้อ
สำนักพระราชวังญี่ปุ่น ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะว่าเจ้าหญิง "รู้สึกวิตกกังวลอย่างมาก" เกี่ยวกับการต้องตอบคำถามด้วยวาจา
สำนักพระราชวังบอกก่อนหน้านี้ว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการรายงานข่าวของสื่อมากเกินไปซึ่งทำให้เจ้าหญิงต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคเครียด
ความสัมพันธ์ของบุคคลทั้งสองต้องประสบกับปัญหาความขัดแย้งในประเทศ
เจ้าหญิงทรงหมั้นกับโคมุโระในปี 2560 และทั้งสองกำหนดที่จะแต่งงานกันในปีต่อไป แต่การแต่งงานล่าช้าออกมาหลายปี หลังจากมีการอ้างว่าแม่ของโคมุโระมีปัญหาทางการเงิน เมื่อมีรายงานว่าเธอได้กู้เงินจากอดีตคู่หมั้นของเธอ แล้วไม่ใช้คืนให้เขา
แต่ทางสำนักพระราชวังออกมาปฏิเสธว่าความล่าช้าของการแต่งงานเชื่อมโยงกับเรื่องนี้ แม้ว่ามกุฎราชกุมารฟุมิฮิโตะ จะตรัสว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ปัญหาเรื่องเงินที่จะต้องได้รับการจัดการให้เรียบร้อยก่อนที่ทั้งคู่จะแต่งงานกัน