วันนี้ (23 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมแถลงข่าวเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง โดย พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า การชุมนุมทางการเมืองวันนี้ มีหลายกลุ่มอาทิเช่น People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในเวลา 17.00 น. กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่หน้าศาลฎีกาเวลา 17.30 น. และกลุ่มทะลุแก๊สที่แยกดินแดง เวลา 17.30 น. ซึ่งทาง บช.น. ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลแล้ว
สำหรับการปฏิบัติการแก้ไขปัญหากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบตามมาตรการเชิงรุกในพื้นที่วานนี้ (22 ต.ค.) สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 7 คดี ผู้ต้องหา 9 คน โดยเป็นการจับกุมในที่เกิดเหตุ 7 คน และจับกุมตามหมายจับ 2 คน อย่างไรก็ตามสถานการณ์พื้นที่รอบแฟลตดินแดงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จากนโยบายเชิงรุกของ ผบ.ตร.
ส่วนกรณี ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการอารักขา 1 ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะบริเวณแฟลตดินแดง เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้ออกหมายจับแล้ว 10 คน จับกุมได้แล้ว 9 คน อีกทั้งพบผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 2 คน รวมทั้งสิ้น 11 คน
โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา อั้งยี่ซ่องโจร ร่วมกันมั่วสุมก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ขัดขวางคำสั่งเจ้าพนักงาน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่เบื้องต้นพงเป็นผู้ที่ร่วมชุมนุมที่แยกดินแดง
พล.ต.ต.จิรสันต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ตำรวจ 191 เข้าช่วยเหลือตัวประกัน ที่ ซ.เจริญกรุง 44 โดยมีกระแสข่าวว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. มีคำสั่งเรียกสอบ ตำรวจมือยิงปืนไฟฟ้าไปต่อว่า และเตรียมดำเนินคดีทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเสียขวัญนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง มีเพียง ผบช.น. เรียกมาสอบถาข้อมูลการปฏิบัติหน้าที่ และจะนำไปเป็นคดีตัวอย่างเพื่อเป็นแนววิทยาทาน พร้อมกล่าวชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือตัวประกันได้ทันท่วงที
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยถึงการเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว 46 ประเทศ วันที่ 1 พ.ย. 2564 นี้ พร้อม 21 จังหวัดนำร่อง ว่า หลังจากเปิดประเทศนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังประเทศจะมีการตรวจคัดกรองด้วย ATK ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจมีปัญหาเรื่องเข้าคิวยาว การคัดกรองล่าช้าอาจส่งผลเสียภาพลักษณ์ของประเทศโดย ผบ.ตร.ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปประสานกับกระทรวงสาธารณสุข การท่า อย่างใกล้ชิดเพื่ออำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยว ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ที่สำคัญจะเน้นย้ำให้ผลตรวจเป็นของจริงไม่ให้มีการทุจริต หากพบเจอมีการกระทำความผิดก็จะถูกดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย โดย ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้ 21 จังหวัดนำร่อง ทุกหน่วยงานประสานความร่วมมือกับฝ่ายปกครองและสาธารณสุขจังหวัด เพื่อดำเนินการตรวจสอบเชิงรุกสถานบันเทิงหรือแหล่งท่องเที่ยว ห้ามมั่วสุ่มเนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีการอนุญาตให้มีการมั่วสุม ขายเครื่องสุรา ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีข้อบังคับชัดเจนอยู่แล้วนั้น