svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

คุมตัวผู้ต้องหาจี้ตัวประกันฝากขัง- ขอให้ศาลเพิ่มโทษ

23 ตุลาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจฝากขังผู้ต้องหาจี้ตัวประกัน ผ่านระบบคอนเฟอร์เรนซ์ค้านประกัน ท้ายคำร้องระบุ ขอให้ศาลเพิ่มโทษตามดุลยพินิจ ก่อเหตุซ้ำซาก เตรียมนำตัวด.ญ.วัย 14 ปีสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ ก่อนแจ้งข้อหาเพิ่มเบื้องต้นถูกแจ้ง 6 ข้อหา ญาติรับหลังพ้นโทษเสพยาตลอด เคยห้ามแต่ไม่เชื่อ

23 ตุลาคม 2564  พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ได้ยื่นคำร้องของฝากขัง นายกำพล หรือ หมี นามกระโทก อายุ 31 ปี ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ใช้อาวุธมีดจับเจ้าโรงแรมเป็นตัวประกัน ก่อนที่ตำรวจจะเข้าระงับเหตุและช่วยเหลือตัวประกันไว้ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งวันนี้จะเป็นการฝากขังผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคระบาด

 

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 6 ข้อหา ประกอบด้วย บุกรุกเคหสถาน , กักขังหน่วงเหนี่ยว, ชิงทรัพย์,กรรโชกทรัพย์ ,พกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และครอบครองยาแอมเฟตามีน(ยาเค) และยังไม่รวมข้อหาที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อเด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่ถูกทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วง ซึ่งวันนี้จะมีการนำเด็กหญิงอายุ 14 ปี มาสอบปากคำ โดยสหวิชาชีพจึงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาที่ทำผิดเกี่ยวกับเด็กต่อไป
 

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวไว้ด้วย และในท้ายคำร้องจะมีการระบุ ถึงพฤติกรรมที่มีการกระทำความผิดซ้ำ โดยขอให้ศาลเพิ่มโทษตามดุลยพินิจ

 

ทางด้านพี่สาวและน้องสาวของผู้ต้องหา ได้กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมในช่วงเช้า โดยยืนยันว่า นายกำพล ไม่กระทำชำเราหรือล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กหญิงวัย 14 ปี ของหลานเจ้าของโรงแรมแต่อย่างใด ซึ่งน้องชาย อ้างว่า เห็นเด็กผู้หญิงแต่งตัวไม่ค่อยมิดชิดและเดินผ่านไปมาอยู่บ่อยครั้ง จึงตามเข้าไปในห้องใช้เชือกมัดมือมัดเท้าและขู่บังคับเอาเงิน ส่วนคีย์การ์ดก็ไม่ได้ขโมยมา ซึ่งที่โรงแรมแห่งนี้น้องชายมาพักได้ 2 คืนเพราะเป็นสถานที่คุ้นชิน ใกล้กับบ้าน และที่ทำงาน 

 

“ยอมรับว่า หลังจากน้องชายพ้นโทษคดีชิงทรัพย์ร้านยาที่มีนบุรี มาได้ประมาณ 8 เดือนก็เสพยาเสพติดมาโดยตลอด โดยนำเงินจากขายของเก่าและเป็น พนักงานรักษาความปลอดภัยไปซื้อยาเสพติดและเป็นค่าเช่าโรงแรม ก่อนหน้านี้เคยสอนและห้ามปรามไม่ให้เสพยาและไปก่อเหตุต่างๆ ซึ่งตัวผู้ต้องหาเองก็รับปากว่าจะไม่ทำก่อเหตุรุนแรงอีก แต่ทางครอบครัวไม่เชื่อ เพราะรับปากมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำได้”

 

logoline