เมืองควิลพี ในรัฐควีนส์แลนด์ เขตชนบทห่างไกลทางตะวันตกของประเทศของออสเตรเลีย ที่ มีประชากรราว 800 คน เสนอให้ที่ดินฟรี เพื่อการสร้างที่อยู่อาศัย สำหรับทุกคนที่หวังจะใช้เมืองนี้เป็นบ้าน โดยแนวคิดนี้ในเบื้องต้นคาดว่าอาจจะมีครอบครัวใหม่ๆ 4-5 ครอบครัวที่สนใจ แต่หลังประกาศออกไปปรากฏว่ามีผู้สอบถามมากกว่า 250 ครั้งในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ ทั้งจากออสเตรเลีย และจากทั่วโลก
สภาเขตควิลพี มองหาแนวคิดใหม่ ๆ ที่จะเอาชนะปัญหาการขาดแคลนผู้อยู่อาศัย โดยเศรษกิจหลักของเมืองคือฟาร์มเลี้ยงปศุสัตว์ และเลี้ยงแกะ
สภาเขตควิลพี เสนอให้ผู้ที่ซื้อที่ดิน 1 แปลง และสร้างบ้านบนที่ดินนั้นด้วยเงิน 750,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 18 ล้านบาท และอาศัยอยู่ในบ้านนั้นเป็นเวลา 6 เดือน มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือ 12,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 3 แสน 1 หมื่นบาท
ทางการให้บริการด้านสาธารณูปโภคเต็มรูปแบบ โดยที่ดินขนาด 1,000 ตารางเมตร มีราคาซื้อขาย 12,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 3 แสน 1 หมื่นบาท เท่ากันกับเงินช่วยเหลือ เพราะฉะนั้น จึงเท่ากับว่าสภาฯ มอบที่ดินให้ฟรี ๆ
สำหรับเงินช่วยเหลือนี้เป็นแนวคิดของจัสติน แฮนค็อก หัวหน้าผู้บริหารของสภาฯ โดยหนุ่มวัย 30 ปีรายนี้ ต้องใช้เวลา 6 เดือนพักอยู่ในบ้านพักผู้เกษียณอายุ เมื่อเขามาถึงเมืองนี้เป็นครั้งแรกในปี 2564 เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยในเมือง
ขณะที่เมืองนี้ ต้องการพยาบาล ครู ช่างเครื่องยนต์ คนขายเนื้อ เด็กฝึกงาน คนงานในบาร์ และอื่นๆ
สำหรับ ผู้ที่สนใจสอบถามเรื่องแจกที่ดินฟรี มาไกลถึงจากอังกฤษ อินเดีย ฮ่องกง และนิวซีแลนด์
แต่ตามหลักเกณฑ์แล้ว ผู้ซื้อบ้านจะต้องเป็นพลเมืองออสเตรเลีย หรือผู้อยู่อาศัยถาวร จึงจะมีสิทธิ์ได้รับเงินสนับสนุน
ราคาอสังหาริมทรัพย์ได้เพิ่มสูงขึ้นทั่วทั้งออสเตรเลีย ตลอดช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ และการขยายเวลาล็อกดาวน์ในเมืองใหญ่ ๆ อย่างซิดนีย์ และเมลเบิร์น ทำให้ผู้อยู่อาศัย ออกค้นหาบ้านที่มีพื้นที่กว้างๆ ตามเมืองเล็ก ๆ
แต่ความสนใจในที่ดินเมืองควิลพี ที่ปลอดจากโควิด-19 นั้น มาจากเมืองบริสเบน บนฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก เมืองหลวงของรัฐ ที่มีประชากร 2 ล้าน 4 แสนคน ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออก ราว 1,000 กิโลเมตร
แต่ก็มีความสนใจจากเมลเบิร์น เช่นกัน ซึ่งเป็นเมืองที่มีมาตรการล็อกดาวน์นานกว่าเมืองอื่น ๆ ในโลก