เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะรองประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ล่าสุดเป็นที่น่ายินดีที่คณะกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ เรื่อง “Beer Run” และ “Beer Run 2” จากบริษัท INWOOD PICTURES,LLC. สหรัฐอเมริกา และนักแสดงที่มีชื่อเสียงระดับโลกคือ รัสเซล โครว์ นักแสดงชาวนิวซีแลนด์ - ออสเตรเลีย และ แซ็ก เอฟรอน นักแสดงชาวอเมริกันมาถ่ายทำที่ไทยด้วย
โดยถ่ายทำที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ราชบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 13 กันยายน - 31 ตุลาคม 2564 ซึ่งได้ประมาณการค่าใช้จ่ายในการถ่ายทำสร้างรายได้สู่ประเทศไทยกว่า 373 ล้านบาท
เป็นสิ่งที่แสดงถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรการผ่อนปรนการถ่ายทำภาพยนตร์ฯ ของผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศที่มีต่อประเทศไทยได้อย่างชัดเจน รวมถึงศักยภาพและความโดดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและมาตรการจูงใจด้านภาษี เป็นปัจจัยในการเลือกเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย
รัฐบาลโดยคณะกรรมการฯ วธ. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุขและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ร่วมผลักดันมาตรการผ่อนปรนให้กองถ่ายภาพยนตร์ โทรทัศน์ โฆษณาทำงานต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ.2560 - 2564)
โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ที่ 4 การส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศไทย ทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศมั่นใจและเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ
ซึ่งวธ.ได้รับข้อมูลจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในปี 2564 (มกราคม - ตุลาคม) มีบริษัทภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยรวม 74 เรื่อง ในพื้นที่ 29 จังหวัด สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 3,460.06 ล้านบาท
จังหวัดที่มีการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศสูงสุด 6 อันดับแรก ได้แก่
5 อันดับประเทศที่สร้างรายได้สูงสุดในการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย ได้แก่
ทั้งนี้ คณะกรรมการภาพยนตร์ฯ มีนโยบายส่งเสริมการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลและพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่มุ่งผลักดันมาตรการผ่อนปรนการถ่ายทำภาพยนตร์ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 สร้างความเชื่อมั่นให้แก่กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ
รวมถึงขับเคลื่อนนโยบายใช้ "Soft Power” ความเป็นไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Economy) ของไทยใน 15 สาขา เช่น ภาพยนตร์ ศิลปะการแสดง แฟชั่น อาหารไทยและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
รวมทั้งสนับสนุนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ของรัฐบาลโดยนำคุณค่าของวัฒนธรรมมาต่อยอดสร้างสรรค์สินค้าและบริการ (Creative Culture) ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 5F ได้แก่