นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ นักวิชาการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ เปิดเผยผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงประเด็นกลุ่มผู้เสียหายหลายราย ถูกหักเงิน หรือดูดเงินจากบัตรเดบิต และบัตรเครดิตว่า ปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ยังไม่มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
เบื้องต้นปัญหาเกิดขึ้นมาจาก 3 ส่วน คือ 1.ต้องมาดูที่ธนาคารว่า ระบบแจ้งเตือนของธนาคารมีปัญหาจริงหรือไม่ และถูกแฮกข้อมูลหรือเปล่า
2.ตามกระแสข่าวที่บอกว่ามีแอปพลิเคชัน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ชี้แจ้งว่าเป็นการลงทะเบียนในต่างประเทศ ซึ่งต้องมาดูว่า ผู้เสียหายไปลงทะเบียนในแอปฯ จริงหรือไม่ โดยพบว่า แอปฯ พวกนี้ในต่างประเทศมีการดูดเงินจริง
3.ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ เวลาเจอข้อความ (SMS) อะไรเข้ามา แล้วกดเข้าไปดู หรือผู้ใช้งานบางคนชอบดาวน์โหลดคลิปอะไรแปลกๆ มาดู จะถูกไวรัสเข้าไปติดตั้งในระบบได้
ส่วนตัวผมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบอย่างจริงจังว่า เกิดปัญหาจากแบงก์ หรือเกิดจากแอปฯ ต่างประเทศ หรือจากผู้ใช้งานเอง เพราะครั้งนี้มีข้อน่าสังเกตว่า มีคนเสียหายเป็นหมื่นๆ ราย หากย้อนดูตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เจอปัญหาแบบนี้จำนวนมาก
ส่วนหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องนี้ มีอยู่หลักๆ คือ แบงก์ชาติ อยู่ภายใต้ พ.ร.บ. ไซเบอร์ ที่มีสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) , สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อยู่ภายใต้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม