"จุรินทร์" ออนทัวร์ถกขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนใต้

15 ตุลาคม 2564  ที่อ.สุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานมอบโฉนดที่ดิน ตามโครงการมอบโฉลดที่ดินทั่วไทยนำสุขคลายทุกข์ให้กับประชาชน จำนวน30ราย ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านโคกซิแด ม.4ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส จากนั้นเดินทางไปยังด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยมีชาวบ้านกลุ่มแฟนคลับร่วม100คน มาต้อนรับและมอบพวงมาลัยและดอกกุหลาบสีแดงให้เป็นกำลังใจ  พร้อมไปเยี่ยมให้กำลังใจกับประธานชุมชน อสม.และผู้ใหญ่บ้าน จำนวน160คน ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ได้ร่วมมือกับในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไววัสโควิด19  พร้อมกันนี้ได้นั่งรถตรวจเยี่ยมระบบการขนส่งระหว่างประเทศ สะพานด่านพรมแดนไทยมาเลเซีย ซึ่งมีบรรยากาศที่เงียบเหงา ที่ทางการไทยอนุญาตให้เพียงรถยนต์บรรทุกขนส่งสินค้าจากประเทศมาเลเซีย แล่นข้ามแดนมารับสินค้าจากประเทศไทยเท่านั้น

จากนั้นรมว.พาณิชย์ ได้เดินทางไปยังอาคารด่านพรมแดนสุไหงโกลก ในการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนภาคใต้ เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ( กรอ.พาณิชย์) มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน60คน เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต.นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่จากกระทรวงต่างประเทศ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ ประธานหอการค้า จ.นราธิวาส กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ด่านศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่มีการประชุมระบบซูมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพูตพาณิชย์ระหว่างประเทศ โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า2ชั่วโมง

ซึ่งในที่ประชุมมีการสอบถามถึงความพร้อมของ ศบค.นราธิวาส สรุปว่า จังหวัดนราธิวาส มีความพร้อมเปิดด่านพรมแดนบูเก๊ะตา อ.แว้ง ด่านพรมแดนตากใบ อ.ตากใบ ในวันที่1พฤศจิกายน2564ที่จะถึงนี้ ซึ่งรายละเอียดต่างๆต้องมีความพร้อมในการผลักดันเศรษฐกิจของ จ.นราธิวาส ในคืนกลับมาโดยเร็วหลังมีการเปิดประเทศ 

นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังได้ประชุมระบบซูมกับทูตพาณิชย์มาเลเซีย เพื่อเตรียมพร้อมด้านต่างๆ เพื่อทำการเจรจาด้วยวาจาก่อนแล้วค่อยทำหนังสือตามหลัง มิเช่นนั้นจะล่าช้าและเสียประโยชน์โดยตั้งเป้าจะเปิดประเทศให้ทันในวันที่1พ.ย.64นี้

นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องของช่องทางการขนส่งสินค้าออนไลน์จากไทยไปมาเลเซีย ของผู้ประกอบการSMEsที่ปัจจุบันทางการมาเลเซียไม่อนุญาต ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางทูตพาณิชย์มาเลเซีย จะนำไปเจรจากับผู้ประกอบการSMEsของมาเลเซีย เพื่อมารับสินค้าของไทยที่ด่านพรมแดน เนื่องจากหากส่งทางไปรษณีย์ไทยที่มีอยู่แล้วแต่ต้องส่งผ่านไปทาง อ.สะเดา จะเสียเวลาและค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

ภาพ/ข่าว โดย:
ณรงค์  นวลสกุล จ.นราธิวาส