ราคาถ่านหินจีนพุ่งทำสถิติ-ปรับขึ้นค่าไฟเริ่ม 15 ต.ค.
ราคาถ่านหินสำหรับป้อนโรงไฟฟ้าในจีนพุ่งสูงขึ้นทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ หลังจากแหล่งเหมืองถ่านหินประสบภัยพิบัติน้ำท่วม ล่าสุดรัฐบาลปล่อยให้ค่าไฟปรับขึ้นตามกลไกตลาดเพื่อบรรเทาวิกฤตขาดแคลนพลังงาน
มณฑลซานซี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถ่านหินปริมาณมากที่สุดในจีนประสบฝนตกหนักและน้ำท่วมในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังจากมณฑลเหอหนาน ที่เป็นแหล่งผลิตถ่านหินสำคัญอีกแห่งก็ประสบน้ำท่วมครังใหญ่เมื่อเดือน ก.ค.
ภัยพิบัติล่าสุดทำให้ราคาถ่านหินประเภทให้ความร้อนในตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าเจิ้งโจวปรับตัวสูงขึ้น 11% เป็น 1,505.6 หยวนต่อตันในวันนี้ และยังกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลที่ต้องการเร่งเพิ่มปริมาณการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนเชื้อเพลิงที่ทำให้ต้องปันส่วนไฟฟ้าในหลายมณฑลทั่วประเทศในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
มณฑลซานซีผลิตถ่านหินมากถึงเกือบ 1 ใน 3 ของทั้งประเทศในปีนี้ แต่ต้องปิดเหมืองหลายสิบแห่งเนื่องจากน้ำท่วม แต่เหมืองบางแห่งเริ่มกลับมาเปิดได้อย่างช้าๆแล้ว ขณะที่น้ำท่วมทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 รายและสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนมากกว่า 1.76 ล้านคน
ขณะที่คณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ ออกแถลงการณ์วันนี้ระบุว่า นับจากวันที่ 15 ต.ค.เป็นต้นไป ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินจะมีราคาขึ้นลงตามกลไกตลาด และผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมจะต้องซื้อไฟฟ้าโดยตรงผ่านตลาดหรือผ่านตัวแทนโดยเร็วเท่าที่เป็นไปได้
การปฏิรูปราคาไฟฟ้ามุ่งสะท้อนถึงความต้องการและการบริโภคไฟฟ้า ลดความยุ่งยากด้านการดำเนินงานของบริษัทไฟฟ้า และกระตุ้นให้โรงไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น
การปรับค่าไฟแบบลอยตัวเป็นความท้าทายที่สุดหลังใช้ความพยายามหลายสิบปี และเมื่อวันศุกร์รัฐบาลกำหนดว่าจะให้ค่าไฟปรับตัวขึ้นลงได้ 20% จากราคากลาง ซึ่งสูงกว่าค่าไฟที่กำหนดตายตัวก่อนหน้านี้ เพื่อหวังลดความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
มาตรการนี้เป็นแนวทางล่าสุดเพื่อบรรเทาวิกฤตขาดแคลนพลังงาน ที่เกิดจากถ่านหินมีราคาสูงและขาดแคลน กระทบต่อการผลิตไฟฟ้า ทำให้ต้องปันส่วนไฟฟ้า และการขาดแคลนไฟฟ้ากระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตทั้งหลายในวงกว้าง ทำให้ต้องชะลอการผลิต และวิกฤตครั้งนี้จะฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน