เตือนภัย..มิจฉาชีพใช้แอพถุงเงินหลอกเงินกว่าครึ่งแสน

7 ตุลาคม 2564 นายวิรุฬห์ บุญกำเนิด อายุ35 ปี และ นางสาว อนุธิดา พันธุ์อร่าม อายุ 21 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ที่ 5 ถนนหน้าเมือง ตำบลดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี  สองสามีภรรยา เจ้าของร้านขายของชำ และสินค้าธงฟ้า ได้ร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ หลังถูกมิจฉาชีพ หลอกให้กดรหัส OTP เพื่อรองรับ แอพถุงเงินคนละครึ่ง เฟส 4 เพื่อรองรับการใช้งานสำหรับร้านค้าจำหน่ายสินค้าธงฟ้า ทำให้ เงินในบัญชีธนาคารกรุงไทย ซึ่งผูกติดกับ แอพถุงเงินหายไป จำนวน 54,100 บาท

สองสามีภรรยา เล่าว่า เมื่อ วันพุธ ที่ 6 ตุลาคม 2564 เวลา 10.28 น. ได้มีหมายเลขโทรศัพท์ 090-4009140โทรศัพท์เข้ามายังตนเองและแจ้งว่า ให้อัพเดทถุงเงินคนละครึ่ง เฟส 4 หากไม่ทำจะเข้าระบบไม่ได้และต่อมาได้รับข้อความให้ลงทะเบียนเฟส 4 โครงการคนละครึ่งวันสุดท้าย  จึงได้ทำการเข้าไปตามลิงค์ กรอกข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเอทีเอ็ม และข้อมูลส่วนตัว โดยมีการส่งเลข OTP มาทาง SMS จากธนาคารกรุงไทย  เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว พบว่าเงินในบัญชี ธนาคารกรุงไทย ได้หายไปเป็นจำนวน 54,100 บาท 

เมื่อไปสอบถามธนาคารกรุงไทย ทราบว่าเงินจำนวนดังกล่าวได้โอนเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำกัด เลขบัญชี 0228184705  มีชื่อนายธนานนท์ ทรวงสุรัตนกุล เป็นเจ้าของบัญชี  ซึ่งเว็ปไซต์และลิงค์ OTP ดังกล่าวเป็นการกระทำของมิจฉาชีพ  ตนจึงได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.กนกภพ สุวรรณะ พนักงานสอบสวนสภ.ดอนสัก และแจ้งธนาคารปลายทางที่โอนเงินไปขออายัดบัญชีดังกล่าว พร้อมเดินหน้า เข้าขอความช่วยเหลือ จากตำรวจไซเบอร์ บก.สอท. 5  สุราษฎร์ธานี

นายวิรุฬห์ บุญกำเนิด กล่าวต่อว่า ตนเองและภรรยา ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ หรือ คิดว่าถูกมิจฉาชีพจะหลอกลวง เนื่องจากได้เปิดรายขายของชำและเข้าร่วมโครงการธงฟ้ามานาน ซึ่งเมื่อมีลิงค์ส่งเข้ามาให้กด เมื่อกดเข้าไป มันขึ้นเป็นหน้าเว็ปไซต์ของธนาคารกรุงไทยทันที  
                  
ซึ่งเวปไซด์นี้มิจฉาชีพสามารถสร้างขึ้นมา ให้เหมือนของจริง จึงทำตามขั้นตอนและสูญเสียเงินไป  แต่ที่รู้สึกแปลกใจ และเกิดข้อสงสัยว่า มิจฉาชีพจะรู้ได้อย่างไรว่า หมายเลขโทรศัพท์ของตนเอง ทำร้านธงฟ้า ผูกกับแอพถุงเงิน และ OTP ที่ส่งมา ก็มาจากข้อความเดียวกับ ที่ธนาคารกรุงไทยจริงส่งมา 

                  
นอกจากนี้ยังมีร้านค้าขายของชำที่รู้จักละแวกใกล้เคียง ก็ถูกหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวติดต่อเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากเขาไม่มีบัตรเอทีเอ็ม จึงไม่ได้ทำตามขั้นตอนและไปธนาคาร
                              
ทั้งนี้อยากฝากเตือนร้านค้าต่างๆ หากมีคนโทรศัพท์เข้ามาให้ทำตามขั้นตอนดังกล่าว อย่าเพิ่งทำตามขั้นตอนให้ไปสอบถามกับธนาคารต้นทางจะได้ไม่เป็นเหยื่อมิจฉาชีพ.

ภาพ/ข่าว โดย
สุวรรณี บัณฑิศักดิ์ จ.สุราษฎร์ธานี