svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

7 ครอบครัวถวายฎีกา ชะลอคำสั่งบังคับคดีขับไล่ที่

สุราษฎร์ธานี- ชาวบ้าน 7 ครอบครัวชาวบ้านอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งหนังสือผ่านทางไปรษณีย์จังหวัดสุราษฎร์ธานีขอถวายฎีกาต่อในหลวงรัชกาลที่10 และพระราชินี เพื่อขอพระราชทานคำสั่งชะลอการบังคับคดีให้ออกจากพื้นที่ทำกิน

 7 ตุลาคม2564  ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีชาวบ้าน 7 ครอบครัวชาวอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำเอกสารขอถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่10 และ พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เพื่อขอพระราชทานคำสั่งชะลอการบังคับคดีและขอพระราชทานคณะกรรมการจากส่วนกลางตรวจสอบข้อเท็จจริงการออกแผนที่ประกอบการบังคับคดีที่ไม่ถูกต้องไม่เป็นธรรม
           
นางปราณีย์ ใจสะอาด อายุ 77 ปีได้ยื่นซองเอกสารที่จ่าหน้าซองถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี ลงทะเบียน EMS ส่งถึง สำนักราชเลขาธิการพระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน กรุงเทพฯ 10200 โดยทางเจ้าที่ไปรษณีย์ได้ดำเนินรับเอกสารและลงทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยโดยเสียค่าจัดส่งเป็นจำนวนเงิน 83 บาท ขณะที่นายสุขพันธ์ บุญเหลือ ผู้ช่วยหัวหน้าไปรษณีย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่าเอกสารจะถึงยังจุดหมายในวันพรุ่งนี้
             7 ครอบครัวถวายฎีกา ชะลอคำสั่งบังคับคดีขับไล่ที่
นางปราณี ใจสะอาด อายุ 77 ปี / นายสำรอง หนูอินทร์ อายุ 65 ปี / นางสาววรรณา หนูอินทร์ อายุ 74 ปี /นางปราณี รอดเรือง อายุ 68 ปี/ นางเต็มดวง ชูกล่อม อายุ 50 ปี / นายวิโรจน์ เจริญคำแหง อายุ 62 ปี ปัจจุบันเป็นผู้ป่วยติดเตียง และ นายสมพล ดวงจันทร์ อายุ 61 ปี จำนวน 7 ครอบครัว
            

โดยชาวบ้านทั้งหมดระบุว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากการกระทำของตัวแทนจากวัดพัฒนาราม พระอารามหลวง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่เข้ามาดำเนินการที่ดินของมูลนิธิพุทธบูชา พ.ศ.2500 วัดพัฒนาราม ดำเนินการฟ้องขับไล่ นางปราณี ใจสะอาด ต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในคดีหมายเลขดำที่ 548/2557 คดีแดงหมายเลขที่ 793/2557 

7 ครอบครัวถวายฎีกา ชะลอคำสั่งบังคับคดีขับไล่ที่
            
ทั้งที่นางปราณี ใจสะอาด ยืนยันได้ทำกินในพื้นที่ซึ่งเป็นที่ดินของตนเองมานานกว่า 40 ปี ซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิ์การครอบครองแต่มีหลักฐานทางที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่าพื้นที่ ที่อาศัยมิใช่พื้นที่ของมูลนิธิฯ แต่กระบวนการทำแผนที่เพื่อความสะดวกในการบังคับคดีของเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาพุนพิน ไม่มีความเป็นธรรม ไม่มีการรับฟังข้อเท็จจริง จึงทำให้ที่ดินทำกินของ 7 ครอบครัวเข้าไปปรากฏอยู่ในแผนที่ประกอบการบังคับคดี ซึ่งทาง 7 ครอบครัวได้คัดค้านในการรังวัดชี้แนวเขตพื้นที่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สนใจอ้างเป็นคำสั่งศาลเพียงอย่างเดียว

7 ครอบครัวถวายฎีกา ชะลอคำสั่งบังคับคดีขับไล่ที่
            
 สุดท้ายทางศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีคำพิพากษาให้นางปราณี ใจสะอาด จำเลยแพ้คดี โดยที่จำเลยไม่มีโอกาสในการต่อสู้ทางคดี เหตุเพราะจำเลยไม่ได้รับหมายศาลในครั้งแรกที่มีการยื่นฟ้องคดีต่อศาล เพราะมีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปยังบ้านที่นางปราณี ใจสะอาดไม่ได้อาศัย
              

โดยเจตนาของโจทก์ผู้ฟ้องคดีทั้งที่รู้ดีอยู่ว่านางปราณี ใจสะอาด อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ดินพิพาท ต่อมาศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยจำเลยไม่ได้มีโอกาสต่อสู้ และมีคำสั่งให้ทางสำนักงานบังคับคดีดำเนินการ โดยกำหนด ให้นางปราณี ใจสะอาด พร้อมพวกออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 13 ตุลาคม 2564 หากฝ่าฝืนจะออกหมายจับกุม
            
ซึ่งนางปราณี ใจสะอาดยังยืนยันว่า ตนมีที่ดินทำกินจำนวน 13 ไร่ มีพื้นที่ติดกับพื้นที่มูลนิธิฯโดยนายชื่น นิ่มรักษ์ บิดาของตน ได้ซื้อที่ดินมาจากนายปลูกในราคา 2,500 บาท ต่อมานายชื่นได้ทำพินัยกรรมมอบที่ดินให้นางปราณีลูกสาว จึงได้ทำกินในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 40 ปี โดยมีเอกสารของทางราชการระบุไว้อย่างชัดเจนพื้นที่ดังกล่าวเป็นของนายปลูก 

7 ครอบครัวถวายฎีกา ชะลอคำสั่งบังคับคดีขับไล่ที่
               
ต่อมานายวารินทร์ ประดิษฐ์สังข์ นายช่างรังวัดชำนาญการที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานีสาขาอำเภอพุนพิน ได้เบิกความต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 นครศรีธรรมราช ในคดีหมายเลขดำที่ อท10/2563 หมายเลขแดงที่ อท50/2563 วันที่ 11 สิงหาคม 2563 ว่าที่ดินของนายปลูกมีอยู่จริงใน สารบบของสำนักที่ดินสาขาอำเภอพุนพิน
               
แต่ในขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 นายวารินทร์กลับเบิกความต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีในหมายเลขคดีดำที่ 548/2557 หมายเลขคดีแดงที่ 793/2557 ว่าที่ดินของ นายปลูกไม่มีอยู่ในสารบบของสำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานีสาขาพุนพิน โดยการเบิกความในครั้งนี้มีข้อความที่แตกต่างและขัดแย้งกันจากครั้งที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
           
ขณะที่นายสำรอง หนูอินทร์ ระบุว่าตนมีที่ดินทำกินจำนวน 2 ไร่เศษถูก นายวารินทร์ ประดิษฐ์สังข์ นายช่างรังวัดชำนาญที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานีสาขาพุนพิน มาดำเนินการทำแผนที่เพื่อสะดวกในการบังคับคดี ในคดีของนางปราณี ใจสะอาด ได้ทำแผนที่ครอบที่ดินของตนเอง รวมทั้งที่ดินทำกินประมาณ 1 งานของนางปราณี รอดเรือง ไปทั้งหมด 

7 ครอบครัวถวายฎีกา ชะลอคำสั่งบังคับคดีขับไล่ที่
              
 สำหรับที่ดินทำกินของตนนั้น มีประวัติเคยมีการถวายฎีกาขอความเป็นธรรมในคดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 และผลปรากฏว่าศาลได้พิพากษาทั้ง 3 ศาลได้ตัดสินชี้ขาดและคดีถึงที่สุด ให้นายสำรองเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินทำกิน โดยมีการทำแผนที่รังวัดที่ดินใน คดีดำหมายเลขที่ 282/2556 คดีแดงหมายเลขที่ 616/2557 นอกจากนั้น นายสำรองได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณได้ยกที่ดินส่วนหนึ่ง จัดตั้งเป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน ถวายเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9

ภาพ/ข่าว โดย
สุวรรณี บัณฑิศักดิ์ จ.สุราษฎร์ธานี