เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และพล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสองหนุ่ม-สาว ที่ถ่ายทำคลิปวิดีโอลามกอนาจาร บริเวณใต้ต้นยางนา ริมถนนสายเชียงใหม่-ลำพูนสายเก่า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
โดยในคดีนี้สามารถจับกุมได้ผู้ต้องหาได้ 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน คือ นายเอ (นามสมมุติ) และนางสาวบี (นามสมมุติ) ทั้งคู่เป็นแฟนกัน โดยในวันเกิดเหตุทั้งคู่ได้ร่วมกันถ่ายคลิปวิดีโอ ขายบนเว็บไซต์ลามกอนาจาร www.*******videos.com ในชื่อคลิป “บอกให้ไปส่งคอนโด แต่แกร๊บเห็นเธอเมาเลยจับ***ข้างทาง” ที่บริเวณริมถนนสายต้นยาง เชียงใหม่-ลำพูน หน้าแขวงการทาง ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 5 ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานทุกด้าน จนทราบว่าบุคคลในคลิปวิดีโอ คือ นายเอ (นามสมมุติ) และนางสาว บี (นามสมมุติ) จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีข้อหา ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 287 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
กระทั่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ที่ จ.พะเยา พร้อมกับนำตัวมาสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นอกจากนี้ยังยึดของกลางเป็นชุดคอสเพลย์ที่ใช้ในการถ่ายคลิปกว่า 19 ชุด มีทั้งชุดพนักงานธนาคาร ชุดแพทย์ ชุดวาบหวิวอื่นๆ สมุดบัญชีธนาคาร และอุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายทำคลิป เป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนกับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก
โดยผู้ต้องหาชายให้การรับสารภาพว่าตนเองมีความเชี่ยวชาญทางด้านคอมพิวเตอร์เป็นสามีของนางสาวบี (นามสมมุติ) และตนเองเป็นชายในคลิปวิดีโอลามก อนาจาร จริง ส่วนนางสาวบี (นามสมมุติ) เป็นคนในคลิปจริง นอกจากนี้ยังพบเส้นทางการเงินที่ได้จากการรับสมัครให้เข้าชมคลิปวิดีโอการมีเพศสัมพันธ์ มีการจัดทำคลิปวิดีโอลามกอนาจารนอกสถานที่ แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย มากกว่า 70 คลิป
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 5 ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน ดำเนินคดีต่อที่ สภ.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ในข้อหา ประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 287 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์ นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และมาตรา 388 ผู้ใดกระทำการ อันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 กล่าวว่า การกระทำผิดในลักษณะดังกบ่าวผิดกฎหมายในส่วนของการอนาจารในที่สาธารณะ อย่างชัดเจน จากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาเริ่มถ่ายคลิปมาตั้งแต่ ปี 2563 มาถึงปัจจุบันก่อนถูกจับ มีคลิปรวมกว่า 70 คลิป แต่รายได้ที่ได้อยู่ระหว่างสอบสวนเส้นทางการเงิน นอกจากนี้ผู้ต้องหามีการถ่ายคลิปในที่สาธารณะหลายแห่ง เพื่อขายบนโลกออนไลน์ หารายได้ แต่จากการสอบถามผู้ต้องหายังบอกว่าได้เงินไม่มากนัก จึงอยากจะฝากเตือนผู้วัยรุ่นหรือประชาชนคนใดที่ริจะกระทำแบบนี้ รายได้อาจมากหรือน้อยก็ตามแต่ แต่ถือว่าผิดกฎหมายถูกจับมามีโทษหนัก พร้อมกันนี้เตรียมขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม และจะประสานไปที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขอให้บล็อกเว็บไซต์ลามกอนาจารทั้งหมด ขณะเดียวกันพบว่ามีหลายคู่ยังทำการลักษณะนี้ หากตรวจสอบพบจะมีการจับกุมแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตังผู้ต้องหาไปขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามถามผู้ต้องหานั้น ผู้ต้องหาชายตอบสั้นๆว่า ทำเพื่อหาเงิน และส่วนใหญ่จะถ่ายทำในห้องปิด และอยากจะขอโทษชาวเชียงใหม่ที่ทำไม่เหมาะสม
โดย เกรียงไกร รัตนา / ศูนย์ข่าภาคเหนือ