หนุนสุดตัว ปชป. มั่นใจ“จุรินทร์”นั่งนายกฯ เลือกตั้งครั้งหน้า

หลังจาก  นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศว่าพรรคประชาธิปัตย์จะส่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็มีทั้ง สส.และคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวนมาก "ยกมือสนับสนุน"

รองหัวหน้าพรรค องอาจ คล้ามไพบูลย์บอก ว่า “นายจุรินทร์  เป็นนักการเมืองที่ผ่านงานทางการเมือง ที่มีบทบาทในสภาอย่างเด่นชัด เคยเป็นทั้งประธานวิปรัฐบาลและประธานวิปฝ่ายค้านมาแล้ว ส่วนงานฝ่ายบริหาร   ก็ผ่านการเป็นรัฐมนตรีรับผิดชอบทั้งงานด้านเศรษฐกิจ สังคม มาหลายกระทรวง ถือว่า  เป็นผู้มีประสบการณ์สูง" 

แม้ในตำแหน่งปัจจุบัน เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ ที่ประสบความสำเร็จ ตามนโยบายที่ประกาศไว้ ทั้งการประกันรายได้เกษตรกร และ ผลักดันการส่งออกแม้จะมีผลกระทบจากโควิด-19 ไปทั่วโลก  และการจัดกิจกรรม “จุรินทร์ ออนทัวร์” ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี มีเสียงตอบรับจากประชาชนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงนับว่า มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งเชื่อว่า "ประชาชนจะให้โอกาส”

ขณะที่ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ประสานเสียง “นายจุรินทร์ เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ทันสมัย เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจเป็นอย่างดี มีผลงานโดดเด่นด้านเศรษฐกิจ และเป็นผู้ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานร่วมกับพรรคอย่างเป็นรูปธรรม”

ส่วนนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค บอกว่า “พรรคประชาธิปัตย์มีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะบุคคลที่หลายคนกล่าวถึงมากในช่วงนี้คือ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ซึ่งได้ให้การสนับสนุนนายจุรินทร์ ก็ยังคงเป็นมันสมองด้านเศรษฐกิจให้กับพรรค  “จากคุณสมบัติและผลงานที่ผ่านมายืนยันได้ว่านายจุรินทร์ มีความเหมาะสมที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะจะสามารถนำพาประเทศฝ่าฟันวิกฤตไปได้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจของประเทศ ที่จำเป็นต้องใช้ผู้นำที่มีความรู้ ความเข้าใจด้านเศรษฐกิจ มีทีมงานที่ดี มีวิสัยทัศน์ และมีผลงานที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม” 

ขณะที่นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช  บอกว่า ด้วยคุณสมบัติ ‘หัวหน้าอู๊ดด้า’ เป็น ‘นักบริหารรัฐกิจ’ มืออาชีพ เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง และไม่มีประวัติด่างพร้อยในเรื่องของการทุจริตประพฤติมิชอบ   ขณะนี้ พรรคก็ได้เตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งตลอดเวลา เพื่อที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ กลับมาอยู่ในหัวใจของประชาชน  โดยมีเป้าหมายว่า ส.ส.ต้อง ‘เกินร้อย’ และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งต่อไป