ฟูมิโอะ คิชิดะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 100 ของญี่ปุ่น วัย 64 ปี เตรียมขึ้นรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่นในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะมีการลงคะแนนเสียงเพื่อรองรับเขาอย่างเป็นทางการ โดยเขาได้รับเลือกจากสมาชิกพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือ LDP ให้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อจาก โยชิฮิเดะ ซูงะ ที่ประกาศลาออกไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่คะแนนนิยมตกลงอย่างมาก จากนโยบายการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิดในญี่ปุ่น และหากซูงะยังเป็นผู้นำพรรคต่อไป จะทำให้ความนิยมของพรรค LDP ร่วงต่ำลงไปด้วย ขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปในญี่ปุ่น คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ คิชิดะจึงถูกเลือกขึ้นมาให้เป็นผู้นำพรรค LDP และว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
คิชิดะเป็นนักการเมืองฝ่ายกลางเอียงซ้าย มีแนวคิดโอนเอียงมาทางฝ่ายเสรีนิยม ซึ่งค่อนข้างขัดกับอุดมการณ์ของพรรค LDP ซึ่งเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม เขามาจากครอบครัวนักการเมือง ในวัยเด็กเคยเข้ารับการศึกษาที่นิวยอร์ก ก่อนที่จะกลับมาเรียนที่มหาวิทยาลับวาเซดะ ในญี่ปุ่น เคยทำงานธนาคาร ก่อนที่จะเข้าสู่สนามการเมือง ได้รับเลือกเป็น ส.ส. ครั้งแรกในปี 1993 และเป็น ส.ส. ต่อเนื่องถึง 9 สมัย ก่อนที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศในสมัยของ ชินโซ อาเบะ ในปี 2012 มีแนวทางสร้างความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ จีน เกาหลีใต้ ด้วยความประนีประนอม มีแนวคิดขจัดการสะสมอาวุธนิวเคลียร์อย่างถาวร สนับสนุนหลักการเรื่องประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ แต่ถึงจะมีแนวคิดเสรีนิยมยังไง คิชิดะก็เปิดเผยว่าเขายังไม่ถึงขั้นที่จะสนับสนุนให้ญี่ปุ่นมีการสมรสของบุคคลเพศเดียวกันได้ แต่นักวิเคราะห์ต่างประเทศมองว่าการบริหารประเทศของคิชิดะ น่าจะมีความยืดหยุ่นมากกว่าผู้นำคนก่อนๆ ของญี่ปุ่น
สำหรับการขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น คิชิดะชูนโยบายเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากโควิด ซึ่งเขามีงานที่ต้องเร่งทำหลายอย่าง ทั้งเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การรับมือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ และการเรียกความนิยมคืนกลับมาจากประชาชนเพื่อรับมือศึกเลือกตั้งทั่วไปที่ใกล้จะมาถึง