จากกรณี “มาดามแพม” ช่างแต่งหน้าและบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.4 ล้านคน กรณีถูกปฏิเสธการรับบริจาคเลือดจากสภากาชาด
โดยสามีของ “มาดามแพม” ได้ออกมาโพสต์ระบุว่า “ช่วงนี้ สภากาชาดขาดเลือด ผมกับเมียตั้งใจไปบริจาคเลือด แล้วทำคลิปช่วยประชาสัมพันธ์ แล้วถึงได้รู้ว่า LGBT อย่าได้ริอ่านไปบริจาคเลือดเชียว เพราะสภากาชาด ยังมีนโยบาย “ไม่รับเลือดจากรักร่วมเพศ”
เพราะมองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง เป็นพาหนะนำโรค นี่มันโลกยุคไหนแล้วครับ” เสียความรู้สึกเลยครับ ขอบใจมาก ผมจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับสภากาชาติตลอดไป งานอะไรก็ไม่ต้องมาให้ช่วยโปรโมต ถ้าในอนาคตผมต้องการเลือด ผมก็จะหาซื้อเอง ไม่อยากเชื่อ ว่าองค์กรที่ต้องการเลือดเพื่อช่วยคน ดันทำลายคนบริจาคเลือดด้วยการ เหยียดเพศ
เมียผมน้องเดินร้องไห้กลับบ้านทั้ง ๆ ที่อยู่หน้าห้องบริจาค เพราะอะไร เพราะความผิดที่ไม่ได้ก่อเหรอ ผมไม่เข้าใจ การรับเลือดของเพศเดียวกันทันคือตราบาปอะไร ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สภากาชาดยังเคยขอให้เมียผมช่วยโปรโมตโครงการบริจาคเลือดอยู่เลย ย้อนแย้งสุด ๆ
ต่อมาเพจ “หมอขอบ่นหน่อยเหอะ-AggressiveDoctor” ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องราวดราม่าดังกล่าวเอาไว้ว่า “ก็เป็นกฎสากล นะ ทำความดีอย่างอื่นก็ได้
อย่างไรก็ตามในเว็บไซต์ “ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย” ได้มีการระบุคุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต ในข้อ 11 คือมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ท่านเป็นเพศชายที่เคยมีเพศกับเพศชายสัมพันธ์ ซึ่งอัตราการติดเชื้อเอชไอวี ของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายสูงกว่าประชากรทั่วไปมาก และโอกาสที่จะมีผู้ที่อยู่ในระยะ window period ของการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มนี้สูงกว่าประชากรทั่วไป