25 กันยายน 2564 คืบหน้าคดีที่หลายคนจับตามองเกี่ยวกับกลุ่มโจรที่เข้าไปขโมยรังนกอิแอ่นในพื้นที่เกาะสี่เกาะห้า ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ส่อเค้าวุ่น หลังมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงคล้ายเจ้าหน้าที่รัฐสั่งการเปิดทางให้กับกลุ่มโจร หลังจากนั้นก็มีนักปกครองระดับท้องถิ่นออกมาแฉถึงขบวนการขโมยรังนก พร้อมตั้งเวทีปราศรัยเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว จนล่าสุดมีหนึ่งในกลุ่มโจรที่ร่วมเข้าไปขโมยรังนก ย่องเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยอมรับสารภาพว่าเข้าไปร่วมขโมยรังนกจริง แต่ยังไม่ซัดทอดถึงผู้บงการใหญ่
นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง จากกรณีที่มีคลิปเสียงของชายปริศนาหลุดออกไปเผยแพร่ทางสื่อโซเชียล ตนมั่นใจว่าเสียงของชายปริศนาที่ได้ยินในคลิป เป็นเสียงของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอย่างแน่นอน แต่จะเป็นเสียงของบุคคลใด ก็ปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบ เพราะคลิปดังกล่าวมีพลเมืองดีได้นำไปมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว
และในส่วนที่ทาง อปท.ท้องถิ่นทั่วทั้ง จ.พัทลุง ได้ออกมาเคลื่อนไหวพร้อมจัดเวทีปราศรัยไปเมื่อวันที่ 21 ก.ย.64 ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ออกมาแสดงความรับผิดชอบในฐานะประธานคณะกรรมการชุดใหญ่ ในการจัดเก็บรังนกอิแอ่น จ.พัทลุง ที่ปล่อยปละละเลยในช่วงว่างเว้น รอผู้สัมปทานรังนก จนเกิดช่องโหว่เปิดทางให้กลุ่มโจรเข้ามารังนกอิแอ่นเกือบหมดเกลี้ยงภายใน 7 ถ้ำ จากทั้งหมดที่มีอยู่ 107 ถ้ำ สร้างความเสียหายให้กับจังหวัดและคนพัทลุงหลายพันล้านบาท ซึ่งทางกลุ่มผู้เรียกร้องได้ยื่นคำขาดภายใน 7 วัน เพื่อรอคำตอบและแสดงความรับผิดชอบ จาก นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง
นายวิสุทธิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทั้งตนและผู้ว่าราชการ จ.พัทลุง ต่างก็เป็นคนพัทลุง ต่างมีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของคนพัทลุงเหมือนกัน และหากเกิดความเสียหายใดๆก็ตามที่เป็นภาพรวมของจังหวัดและคนพัทลุง ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องออกมารับผิดชอบ พร้อมร้องขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้พิจารณาตัวเอง แสดงสปิริตโดยการย้ายออกนอกพื้นที่ไปซะ เพราะยังไงตนและกลุ่ม อปท.ท้องถิ่นทั่วทั้งจังหวัดพัทลุง จะไม่ยอมให้เรื่องการขโมยรังนกเงียบ ผู้กระทำผิดล่องหนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตนและทางกลุ่ม อปท.ท้องถิ่นจะรวมตัวกันออกมาปกป้องผลประโยชน์ให้กับท้องถิ่น ให้กับคนพัทลุง และหากทางผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆ เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีกลุ่มของคนพัทลุงอออกมาเคลื่อนไหวขับไล่อย่างแน่นอน
ด้าน นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ก็ออกมาพูดคุยถึงความคืบหน้าผ่านรายการทางวิทยุท้องถิ่น เมื่อช่วงเช้าวันนี้(วันที่ 25 ก.ย.64) ว่า ตนหลังจากทราบข่าวการขโมยรังนก จนมีรังนกสูญหายและลูกนกถูกเผาทำลายไปในหลายถ้ำ ก็รู้สึกเสียใจ และก็พยายามหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ในขณะนี้ทางผู้รับสัมปทานรายใหม่ ที่มีการเซ็นสัญญาสัมปทานรังนกก็ยังไม่มีการรายงานถึงความเสียหายมายังตน หรือทางคณะกรรมการรังนกให้รับทราบเลย ตนได้รับรู้เรื่องราวต่างๆผ่านสื่อที่มีการเผยแพร่ไปเท่านั้น ส่วนประเด็นคลิปเสียงของชายปริศนาตนก็รับทราบและได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าวแล้ว พร้อมตั้งชุดคณะกรรมการตรวจสอบถึงที่มาของคลิป หากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจริงตามข่าวที่มีการนำเสนอไปนั้น ก็จะดำเนินเอาผิดจนถึงที่สุด
ในส่วนของคณะกรรมการรังนกฯ ได้มอบหมายให้ นายภูดิษฐ์ ชนะวรรณโณ นายอำเภอปากพะยูน เจ้าของพื้นที่ ที่เกิดการขโมยรังนก เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มโจรขโมยรังนกดังกล่าว เมื่อวันที่ 22 ก.ย.64 ที่ผ่านมา แต่พนักงานสอบสวน สภ.เกาะนางคำ ไม่รับแจ้งความ เนื่องจากขาดเอกสารหลักฐานและรายละเอียดประกอบการแจ้งความ หลังจากนั้นในวันที่ 24 ก.ย.64 นายภูดิษฐ์ ฯ นายอำเภอปากพะยูน ได้เข้าแจ้งความอีกครั้ง พร้อมหอบเอกสาร หลักฐานที่มี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ. เกาะนางคำ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกชุด พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดพัทลุง เร่งคัดแยกดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ สอบปากคำ และจัดเก็บข้อมูลการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ของกลุ่มคนงานรับจ้างเก็บรังนก จำนวน 60 คน จากเกาะลิบง ในพื้นที่ จ.ตรัง และจาก อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ซึ่งคนงานเหล่านี้ทางบริษัทฯผู้รับสัมปทานได้ว่าจ้างมาจัดเก็บรังนก หลังจากที่ทางบริษัทฯ ชนะการประมูล แต่คนงานชุดนี้ไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัท สยามเนสท์ 2022 จำกัด แต่อย่างใด จากการคัดแยกดีเอ็นเอ สอบปากคำ มีความคืบหน้าของคดีไปมากพอสมควร คาดว่าอีกไม่เกิน 3 วัน จะสามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการขโมยรังนกได้ทั้งหมด
และนอกจากนี้ ยังได้มีการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกของขบวนการขโมยรังนก ว่า นอกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกพาดพิง และเป็นกระแสสังคมจนถูกตัดสินว่ามีส่วนรู้เห็น และเปิดทางให้กับกลุ่มโจรที่เข้าไปขโมยรังนก เนื่องจากมีหลักฐานที่เป็นคลิปเสียง จนมีการส่งต่อ และแชร์กันในโลกโซเชียล ใจความประมาณตกลง แบ่งผลประโยชน์กัน เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัวก็งัดหลักฐานมาแฉกันเอง ไม่เว้นแม้แต่ภาพถ่ายที่มีการระบุว่า เป็นภาพถ่ายของบุคคลต้องสงสัย 2 คน ในกลุ่มโจรขโมยรังนก ร่วมนั่งเรือหางยาว ไปกับเจ้าหน้าที่และ คณะกรรมการรังนกฯ จนกระทั่งมีบุคคล 1 ใน 2 รายที่ต้องเป็นผู้ต้องสงสัย ที่ร่วมลงเรือไป ได้ย่องเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมยอมรับสารภาพว่าเข้าไปร่วมขโมยรังนกอิแอ่นจริงเพียงแค่ 3 ครั้ง และที่ต้องลงเรือไปกับเจ้าหน้าที่ และคณะกรรมการรังนกฯด้วยในครั้งนั้น เพราะถูกชวนลงไปนำทางสำรวจเกาะ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญ และชำนาญทางเท่านั้น แต่จากผู้เชี่ยวชาญกลับกลายเป็นโจรขโมยรังนกเสียเอง และที่น่ากลัวมากไปกว่านั้นยังพบว่า มีกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามามีส่วนพัวพันในครั้งนี้ด้วยอีกหลายคน.
ภาพ/ข่าว โดย:
ธัญวีร์ จันทร์สุขศรี จ.พัทลุง