จับ"วัน ร่มเกล้า"อดีตนักมวยเรือนแสน ผันตัวเป็นโจร

24 กันยายน 2564 พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.มนต์เสก ตระกูลพานิชย์ ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ วงค์สิงห์ สว.สส.สน.บางนา พ.ต.ต.เพิ่มสกุล นิลขำ สว.สส.สน.บางนา และร.ต.อ.พิทักษ์ มีจิตร์ รอง สว.สส.สน.บางนา ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา จับกุมตัว นายจิตรกร ภารสมบูรณ์ หรือ “วัน ร่มเกล้า” อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ รปภ.บริษัทชื่อดัง

พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ เสี่ยวมี่ 1 เครื่อง ซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกประทุษร้าย เสื้อยืดสีเหลือง 1 ตัว หมวกคลุมหน้ากันแดดลายพราง 1 ใบ กางเกงยืน ขาสั้น สีกลมท่า 1 ตัว และรองเท้าแตะ สีเหลือง 1 คู่ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณเพิงพักไม่มีเลขที่ ภายในชุมชนร่มเกล้า (ล็อค 4-5-6 แยก 4) แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

การจับกุมครั้งนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 20 กันยายน เวลาประมาณ 06.30 น. ตำรวจ สน.บางนา ได้รับแจ้งจาก 2 ผู้เสียหายเป็น รปภ. ของบริษัทก่อสร้างชื่อดัง ถูกคนร้ายเป็นชาย 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน มาจอดรถที่บริเวณเพิงพักคนงานก่อสร้าง กลางซอยอุดมสุข 29 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ทำทีเข้ามาถามผู้เสียหาย

จากนั้นหนึ่งในสาม คนร้ายได้ชักอาวุธปืนมาข่มขู่ แล้วนำทรัพย์สินเป็นรถจักรยานยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สร้อยคอถักเชือกแดง ห้อยพระหลวงพ่อเปิ่น จำนวน 1 เส้น 

ต่อมาตำรวจสืบสวนสน.บางนา ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและป้องกันอาชญากรรม ตร. ประกอบกับกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร ตามเส้นทางที่ คนร้าย ก่อน และหลังเกิดเหตุ

จนทราบว่า  1 ใน 3 ของผู้ก่อเหตุปล้นทรัพย์ของผู้เสียหาย สวมเสื้อสีเหลือง ได้ขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหลบหนีไป ชื่อเล่นว่า นายวัน หรือวัน ร่มเกล้า พักอาศัยอยู่บริเวณภายในชุมชนร่มเกล้า(ล็อค 4-5-6 แยก 4) แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

ต่อมาได้รับเบาะแสว่า นายวัน ได้มาทำธุระที่ร้านกาแฟ  ในปั้มน้ำมัน ถนนทางรถไฟสายเก่า จึงเข้าตรวจสอบพบนายจิตรกร หรือวัน นั่งอยู่ รูปพรรณตรงกับชายสวมเสื้อเหลืองในภาพกล้องวงจรปิด จึงเข้าจับกุม 

สอบสวน ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ร่วมก่อเหตุเมื่อวันที่ 20 กันยายนเวลาประมาณ 04.00 น. จริง โดยซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ที่มีนายเอ (นามสมมุติ)เป็นผู้ขับขี่ และอีกคันหนึ่งมีนายบี (นามสมมุติ)ขับขี่มาตามลำพัง เข้าไปก่อเหตุปล้นทรัพย์ผู้เสียหายที่ซอยอุดมสุข โดยนายบี ได้ใช้อาวุธปืนชี้ผู้เสียหาย

จากนั้นนายนายบี ได้ส่งมอบกุญแจรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายมาให้ขี่หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ  หลังจากก่อเหตุเสร็จแล้ว ได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจอดภายในชุมชนร่มเกล้า โดยนายเอ ได้นำรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปใช้งาน และนายบี นำโทรศัพท์มือถือ และสร้อยพร้อมพระเครื่องของผู้เสียหายไป ส่วนตนได้ส่วนแบ่งเป็นโทรศัพท์มือถืออีกเครื่อง

ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า ปี 2557 ถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ และใช้บัตรอิเลกทรอนิค ปี 2560 ถูกดำเนินคดีข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา และปี 2563 ถูกดำเนินคดีข้อหา ครอบครองยาไอซ์

เพิ่งพ้นโทษ เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง เนื่องจากไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง  โดยในช่วงเยาวชน เคยเป็นนักมวยไทย มีค่าตัวหลักแสน แต่ด้วยติดยาเสพติด จึงผันตัวมาก่อเหตุร้าย

อย่างไรก็ตามตำรวจต้องทำการสืบสวนขยายผลทำการติดตามผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ปล้นทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา