โฆษกทำเนียบขาว เจน ซากี้ เมื่อวันพฤหัสบดี (23 กันยายน ) บอกว่า จะไม่มีการนำม้ามาใช้ที่พรมแดนสหรัฐ บริเวณเมืองเดล ริโอ รัฐเท็กซัส อีกต่อไป หลังจากมีภาพเจ้าหน้าที่พิทักษ์ชายแดนสหรัฐฯ ที่ขี่ม้าเข้าโจมตีผู้อพยพ ที่พยายามรุกล้ำข้ามแม่น้ำ ที่ทำหน้าที่เป็นพรมแดน เพื่อที่ไปยังค่ายผู้อพยพที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำ
ซากีประณามการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนของสหรัฐฯ ในการข่มขู่ผู้อพยพที่พยายามจะข้ามแม่น้ำ และบอกว่าการสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่
“หนึ่ง เรารู้สึกว่าภาพเหล่านั้น ( เจ้าหน้าที่บนหลังม้าที่จัดการกับผู้อพยพที่ชายแดนเท็กซัส) น่ากลัวและน่าสยดสยอง มีการสอบสวน ที่ประธานาธิบดีให้การสนับสนุน และดำเนินการโดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ซึ่งเขาได้กำกับมาว่าจะต้องเกิดขึ้นโดยเร็ว และฉันยังสามารถบอกคุณได้ว่า ทางรัฐมนตรีได้แจ้งไปยังแกนนำด้านสิทธิพลเมืองเมื่อเช้าวันนี้ว่าเราจะไม่ใช้ม้าที่เดล ริโออีกต่อไป นั่นคือการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เกิดขึ้น เพื่อตอบสนองต่อเรื่องที่เกิดขึ้น"
นอกจากนั้น ภาพดังกล่าวยังทำให้รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ได้ “แจ้งถึงความกังวลอย่างมาก” ต่อนายอเล็กซานโดร มายอร์กัส รัฐมนตรีกระทรวง ขณะที่ซากี้บอกว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รับคำสั่งให้หยุดการทำหน้าที่เอาไว้ก่อน ในขณะที่มีการสอบสวนเหตุการณ์
ซากี้ ยังปฏิเสธรายงานข่าวที่บอกว่าทำเนียบขาวจะส่งผู้อพยพจากชายแดนทางใต้ของสหรัฐอเมริกาไปยังกวนตานาโม โดยบอกว่า "ไม่เคยมีแผนที่จะทำอย่างนั้น"
รายงานข่าวเมื่อวันพุธ บอกว่ากระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้ออกสัมปทานฉบับใหม่สำหรับการบริหารหน่วยงานสำหรับผู้อพยพที่กวนตานาโม ที่จะใช้รองรับผู้อพยพชาวเฮติ ที่มารวมตัวกันที่ชายแดนสหรัฐกับเม็กซิโก
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลยังคงส่งผู้อพยพหลายร้อยคนกลับไปยังเฮติต่อไป และยอมปล่อยบางส่วนให้เข้ามายังสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ทางด้านทูตพิเศษสหรัฐฯ ในประเด็นปัญหาเฮติ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเพื่อประท้วงรัฐบาลสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี (23 กันยายน) โดยในจดหมายลาออก ได้ตำหนิรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เนรเทศผู้อพยพหลายพันคนคนกลับไปยังเฮติ จากบริเวณชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
แดเนี่ยล ฟุต นักการทูตมืออาชีพที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนี้ในเดือนกรกฎาคม บอกว่าเงื่อนไขในเฮติเลวร้ายมากจนเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ต้องเก็บตัวอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย และ "รัฐที่ล่มสลาย" ไม่สามารถรองรับการหลั่งไหลกลับมาของประชาชนได้
“ ผมจะไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจที่ไร้มนุษยธรรม ไม่ก่อให้เกิดผลดี ในการเนรเทศผู้ลี้ภัยและผู้อพยพผิดกฎหมายชาวเฮติหลายพันคน” เขาบอกในจดหมายที่ส่งถึงรัฐมนตรีต่างประเทศแอนโทนี บลิงเคน และถูกนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณะเมื่อวันพฤหัสบดี
สหรัฐฯ ได้เนรเทศผู้อพยพ 1,401 คนจากค่ายอพยพกลับไปยังเฮติ และควบคุมตัวไว้อีก 3,206 คน
เฮติ ซึ่งเป็นประเทศยากจนที่สุดในซีกโลกตะวันตก ต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงอย่างหนักในช่วงเร็ว ๆ นี้ รวมถึงการลอบสังหารประธานาธิบดี ความรุนแรงของแก๊งค์อาชญากรรม และแผ่นดินไหวครั้งใหญ่