svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

น้องชายอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุฯ ยันไม่มีจนท.ใช้อาวุธทำร้ายผู้บำบัด

23 กันยายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กาญจนบุรี-น้องชายอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุราษฎร์บำรุง วอนขอความเป็นธรรมอย่าเสพข่าวด้านเดียว ยันไม่มีการใช้อาวุธทำร้ายผู้บำบัด ใครทำผิดจะดูแลกันเหมือนพ่อแม่สอนลูก ด้านทหารนำรถรับกลุ่มผู้บำบัด 19 คน ที่ค่ายฝึกเขาชนไก่ พักฟื้นบ้าน “หมอปลา” จังหวัดเพชรบุรี 

ความคืบหน้าหลังจากนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พร้อมนายจิรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา พาผู้เสียหาย หลังเข้ารับการบำบัดจากวัดท่าพุราษฎร์บำรุง ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี แจ้งความกับกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์บำบัดฯ ในข้อหาค้ามนุษย์

น้องชายอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุฯ ยันไม่มีจนท.ใช้อาวุธทำร้ายผู้บำบัด

ล่าสุด นายธวัช ภูมิผิว น้องชายอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุฯ กล่าวว่า อยากให้ผู้เสพข่าว ผู้เสพโซเซียลต่างๆ ได้ดูสองด้าน ข่าวที่ออกไปที่ระบุว่าวัดใช้กระบองเหล็ก หรือวัตถุอื่นๆ ทำร้ายผู้บำบัดไม่เป็นความจริง กรณีที่ผู้บำบัดทำผิดกฎที่กำหนดไว้ จะดูแลกันเหมือนพ่อแม่สอนลูก เหมือนครูสอนลูกศิษย์ ถ้าทำผิดก็ต้องมีการลงโทษ ขนาดพ่อแม่พวกเขายังเอาไม่อยู่ แล้วนำมาฝากวัดให้ช่วยดูแล บางคนผ่านไป 3 – 4 เดือน หรือบางรายเป็นปี ไม่เคยติดต่อมาหาบุตรหลาน เหมือนปล่อยทิ้ง

น้องชายอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุฯ ยันไม่มีจนท.ใช้อาวุธทำร้ายผู้บำบัด

กรณีย้ายไปพักรอที่ รพ.สนาม (เขาชนไก่)หากไม่มีญาติติดต่อมารับพวกเขาจะอยู่อย่างไร ใครจะรับผิดชอบ ส่วนเรื่องห้องน้ำมีแค่ 2 ห้อง ขอชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ทางวัดรับผู้บำบัดยาเสพติดเข้ามา 50-60 คน แต่ภายหลังญาติ พี่น้องของผู้บำบัดฯ ได้บอกต่อๆกัน ทำให้ศูนย์แห่งนี้มีผู้เข้ามาบำบัดมากขึ้น จนเกิดความแออัด

น้องชายอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุฯ ยันไม่มีจนท.ใช้อาวุธทำร้ายผู้บำบัด

ส่วนประเด็นการเก็บเงินจำนวน 12,000 บาทนั้น นายธวัช เผยว่า ทางศูนย์ฯ จะเก็บเงินค่าเข้ารับการบำบัดจำนวน 12,000 บาทระยะเวลา 1 ปี โดยเข้าวัด 10,000 บาท ถ้าเฉลี่ยแล้วประมาณเดือนละ 800 บาท และอีก 2,000 บาท เป็นฝากไว้ให้ผู้บำบัดสำหรับไว้ซื้อข้าวของเครื่องใช้ หรืออาหารตอนเย็น วันละ 60 บาทต่อเดือน

ด้านผู้บำบัดที่สมัครใจบวชพระ เปิดเผยถึงความเป็นอยู่ที่มาเข้ารับการบำบัดที่ศูนย์แห่งนี้ว่ามีลำบากบ้าง บางครั้งถ้าทำผิดเขาก็ทำโทษ แต่ก็ใช้ชีวิตอยู่แบบปกติ ในส่วนผู้บำบัดฯ ที่ไม่ได้บวชเป็นพระนั้น บางครั้งออกมาทำกิจกรรม ตัดหญ้าบ้าง ช่วยงานวัด หล่อพระ ส่วนตัวตัดสินใจจะอยู่ที่วัดนี้ต่อ เพราะที่นี่ดีดูแลดี

น้องชายอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุฯ ยันไม่มีจนท.ใช้อาวุธทำร้ายผู้บำบัด

ขณะที่พี่สาวผู้บำบัดที่สมัครใจบวชเป็นพระสงฆ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่มีประเด็นออกไปว่ามีการเก็บเงินนั้นถูกต้อง และเรียกเก็บอีกเดือนละ 2,000 ก็ถูกต้อง แต่ถ้าเทียบกับที่ให้เลี้ยงผู้บำบัดที่บ้านนั้นเดือนละ 2,000 นั้นไม่พอต้องมีวันละ 1,000 กว่าบาท และสิ่งที่ได้เห็นคือน้องชายตนเองบวชเป็นพระ ทั้งกริยา หน้าตา ท่าทาง สมบูรณ์ และอยากให้น้องชายบวชอยู่ที่นี่ต่อจนแก่เฒ่าเลย และอยากให้สถานที่นี้มีอยู่ต่อไป ถ้าสถานที่แออัดไปก็อยากให้ปรับปรุงขยับขยายสถานที่ให้ถูกสุขลักษณะและเพียงพอต่อผู้ที่อยู่ที่นี่

น้องชายอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุฯ ยันไม่มีจนท.ใช้อาวุธทำร้ายผู้บำบัด

ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่สัมผัสมาสถานที่แห่งนี้ดีมาก ส่วนการทำโทษนั้นถ้าคุณทำผิดก็ต้องลงโทษเหมือนการเลี้ยงลูกถ้าลูกทำผิดก็ต้องตีต้องทำโทษ ถึงมองว่าเป็นวิธีที่แรง แต่อะไรจะหยุดเขาได้ ถ้าเขาไม่ผิดก็ไม่มีใครไปทำโทษเขาอยู่แล้ว เพราะทุกคนก็อยากอยู่กันอย่างสงบสุข จึงอยากให้มองกันที่ประเด็นว่าโดนทำโทษเพราะอะไร

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณวัด กล่าวถึงพระครูปลัดประสิทธิ์ รตินฺธโร อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าพุราษฎร์บำรุง ว่า เจ้าอาวาสเป็นพระที่พูดตรง ดุบ้างถ้าทำผิด แต่ไม่มีการทำร้ายร่างกาย เหมือนเราเป็นนักเรียนทำผิดก็ต้องโดนทำโทษโดนตีเหมือนกันมันเป็นเรื่องธรรมชาติมันเป็นกติกาเป็นกฎที่ต้องดูแลผู้บำบัด

 

ชาวบ้านคนดังกล่าว ยังกล่าวทั้งน้ำตาว่า “สงสารอดีตเจ้าอาวาสฯ บางครั้งเห็นในโซเชียลก็มีคอมเม้นท์โต้กลับไปบ้าง อยากให้เห็นแก่อดีตเจ้าอาวาสฯ บ้าง ท่านมรณภาพไปแล้วไม่สามารถพูดอะไรได้ ท่านจะมาโต้แย้งอะไรก็ไม่ได้ คนเป็นก็พูดไปคนตายพูดอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ทหาร จากมณฑลทหารบกที่ 17 ได้รับ กลุ่มผู้บำบัดจำนวน 19 ที่ค่ายฝึกเขาชนไก่ เดินทางมาที่วัดท่าพุ เพื่อตรวจทรัพย์สินและนำทรัพย์ส่วนตัวเช่น โทรศัพท์ มือถือ ก่อนเดินทางไปพักฟื้นที่บ้าน “หมอปลา” นายจีรพันธ์ แสงขาว ที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อเวลา 14.00 น. หากญาติจะรับกลับบ้านให้เดินทางไปรับที่บ้านหมอปลา

 

logoline