- 22 ก.ย. 2564
- 35
สุราษฎร์ธานี - ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจังหวัดสุราษฎร์ธานี ควงปืนลูกซอง 5 นัดและปืนสั้นจ่อยิงญาติผู้น้องเสียชีวิตพร้อมลูกชาย หลังก่อเหตุเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนแล้ว
22 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านยิงญาติ 2 ศพเสียชีวิตคาที่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บ้าน เลขที่ 32/2 ม.3 ต.ท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในที่เกิดเหตุมี ผู้เสียชีวิต2 ศพรายแรกคือนายประภาส แก้วกันรัตน์ อายุ46ปี เจ้าของบ้านถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวที่ศีรษะ1นัดเสียชีวิตบริเวณประตูหน้าบ้าน ศพที่2 คือ นายอิทธิพล แก้วกันรัตน์ อายุ25ปี ลูกชายถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันจำนวน2นัดกระถูกที่หน้าอกและลำตัว นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน
จากการสอบสอนในเบื้องต้นคนในบ้านให้การว่าขณะที่ทุกคนภายในบ้านกำลังนอนหลับก็มีเสียงปืนดังจึงรีบลุกขึ้นมาดู พบว่านายฉัตรชาย บัวแก้ว อายุ 44 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่3ตำบลท่าทอง ที่มีบ้านอยู่ใกล้กันห่างจากบ้านผู้เสียชีวิตประมาณ 10 เมตร ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิง นายประภาสที่ศีรษะล้มลงเสียชีวิตทันที
นายอิทธิพล ลูกชายเห็นพ่อถูกยิง จะเข้าช่วยแต่ถูกยิง 2 นัดเสียชีวิตเช่นกัน โดยคนร้ายหันกระบอกปืนไปทางภรรยาและลูกสาวของผู้ตายพร้อมกับตะโกนบอกว่าจะฆ่าล้างครัวทำให้ทั้งหมดต้องวิ่งหนีตายออกจากบ้านโดยที่มี น.ส.จิตตรา ภูเหลื่อม อายุ 24 ปี ภรรยานายอิทธิพล กับน.ส.นริศรา บุญหนองเหล่า อายุ 31 ปีพี่สาวของ น.ส.จิตตรา อยู่ในเหตุการณ์และยกมือไหว้ร้องขอชีวิต จากนั้นคนร้ายก็วิ่งขึ้นรถยนต์เก๋งหลบหนีไป จากนั้นญาติๆผู้เสียชีวิตพยายามโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
ต่อมาทราบว่า นายฉัตรชาย หรือ เดียร์ บัวแก้ว ตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ ได้เดินทางมาเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ พร้อมกับอาวุธปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุ และรับสารภาพว่าตนเองเป็นคนยิงสองพ่อลูกจนเสียชีวิตจริง
สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุย้อนไปเมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมานายประภาส หรือสาร แก้วกันรัตน์ (ผู้ตาย) ได้ถูกตำรวจจับกุมในข้อหายาเสพติด ซึ่งนายประภาส เข้าใจว่านายฉัตรชายเป็นผู้แจ้งตำรวจให้มาจับกุมจึงมีความคับแค้นในใจ และมีการพูดจากระทบกระทั่งกันมาตลอด
โดย นายฉัตรชาย ให้การเพิ่มเติมว่าช่วงประมาณ 01.30น. นายประภาส ได้มาพูดจาด่าทอตนในเรื่องเดิมอีก ทำให้บันดาลโทสะที่ถูกด่าบุพการีจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนลูกซองยาวกระหน่ำยิงนายประภาส และนายอิทธิพล จนเสียชีวิตคาที่จากนั้นได้เดินทางมามอบตัวทันที ซึ่งทางพนักงานสอบสอบปากคำ
และแจ้ง3 ข้อหาหนักคือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ข้อหาพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและทางพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและเป็นที่สนใจของสังคม
นางวรรณา แก้วกันรัตน์ อายุ 50 ปี ภรรยานายประภาส กล่าวว่า ครอบครัวตนเองกับครอบครัวผู้ต้องหาเป็นเครือญาติกันโดยมีทวดคนเดียวกัน แต่ที่ผ่านมาไม่เคยสุงสิงกัน ต่างคนต่างอยู่ ไม่คาดคิดว่าผู้ต้องหาจะกระทำรุนแรงถึงฆ่าได้ลงคอ 2 ศพ เมื่อทำผิดแล้วตนต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดแม้จะเป็นญาติกันก็ตาม
ภาพ/ข่าว โดย:
สุวรรณี บัณฑิศักดิ์ จ.สุราษฎร์ธานี