กรมศิลป์ฯ เปิดภาพล่าสุด "เรือโบราณพนม-สุรินทร์"
เฟซบุ๊ก กองโบราณคดีใต้น้ำ กรมศิลปากร เผยแพร่ภาพล่าสุดของ "เรือโบราณพนม-สุรินทร์" ซึ่งเป็นภาพการขุดตรวจบริเวณด้านทิศใต้ของซากเรือจม แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นส่วนหัวหรือส่วนท้ายเรือ
21 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก กองโบราณคดีใต้น้ำ กรมศิลปากร ได้เผยแพร่รูปซากเรือโบราณพนม-สุรินทร์ พร้อมระบุข้อความว่า ...
"เห็นเรือพนมสุรินทร์กันไหมครับ ? "
ภาพนี้เป็นหนึ่งในหลายๆ ภาพของโครงการขุดค้นแหล่งเรือจมพนมสุรินทร์ประจำปีงบประมาณ 2564 จากภาพหลายท่านคงจะพอคาดเดาขนาดของซากเรือได้ไม่มากก็น้อย แต่ในใจแอดมินเองตอนถ่ายภาพยังคงตกตะลึงกับขนาดของเรือ ถึงแม้จะใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับเรือมาร่วมหลายเดือน แต่ก็ไม่คิดว่าหลักฐานมันจะอยู่ลึกขนาดนี้ ยังอดคิดไม่ได้ว่าคงมีหลักฐานอีกมากมายที่รอคอยให้พวกเราค้นพบ
โดยในภาพเป็นการขุดตรวจบริเวณด้านทิศใต้ของซากเรือจม โดยขุดลงไปต่ำกว่าผิวดินประมาณ 4-5 เมตร เพื่อตอบคำถามว่าบริเวณดังกล่าวเป็นส่วนหัวหรือส่วนท้ายเรือ ซึ่ง ณ ปัจจุบันทางทีมงานก็ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากหลักฐานที่มีตอนนี้ยังไม่เพียงพอ แต่เราจะพยายามหาคำตอบแล้วมาแจ้งให้ทุกท่านทราบ ระหว่างนี้โปรดติดตามการทำงานของพวกเรากันนะครับ
ทั้งนี้ เรือโบราณพนม-สุรินทร์ มีอายุราว พ.ศ. 1200-1300 ขุดพบในนากุ้ง ต. พันท้ายนรสิงห์ อ. เมือง จ. สมุทรสาคร นับเป็นหลักฐานแหล่งเรือจมมีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบแหล่งเรือจมในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผลการศึกษาทางธรณีวิทยาของกรมทรัพยากรธรณีบ่งชี้ให้ทราบว่าเรือโบราณนี้พบอยู่ในร่องน้ำโค้งตวัดโบราณ ที่ระดับความลึกประมาณ 2 เมตร จากผิวดินปัจจุบัน ลำน้ำโค้งตวัดที่เรือโบราณจมตัวอยู่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำท่าจีนโบราณหรือแม่น้ำสาขาที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำท่าจีน
ข้อมูลทางประวัติศาสตร์จากบันทึกของชาวอาหรับในช่วงพุทธศตวรรษที่ 14-15 กล่าวถึงเส้นทางการเดินเรือจากเมืองซีรอฟมายังประเทศอินเดียและจีน โดยขึ้นฝั่งที่เมืองกว่างโจว บันทึกดังกล่าวยังบอถึงว่าราชวงศ์อับบาสิยะฮ์ของอาหรับมีการติดต่อค้าขายกับประเทศจีนและอินเดีย
ดังนั้นเรือโบราณลำนี้อาจออกจากเมืองท่าเมืองใดเมืองหนึ่ง อาจแวะพักขนถ่ายสินค้าตามเมืองท่าหรือดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเมืองที่มีลำน้ำเชื่อมต่อกับทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองโบราณในวัฒนธรรมทวารวดีที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของลุ่มแม่น้ำในภาคกลางของประเทศไทย โดยมีแม่น้ำท่าจีนเป็นเส้นทางการค้าทางเรือที่สำคัญเส้นทางหนึ่งที่นำพาสินค้าจากต่างแดนเข้ามาสู่ลุ่มน้ำภาคกลาง หรือในทางกลับกันก็เป็นเส้นทางนำสินค้าออกไปด้วยเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูล / ภาพ