สุดอัศจรรย์!บวงสรวงสมโภชสะดือเมืองภูกามยาว

วันที่ 16 กันยายน 2564 ที่ลานสะดือเมือง หน้าสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพะเยา นายโชคดี อมรวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ 9 อำเภอและประชาชนชาวพะเยา ร่วมใจกันทำพิธีบวงสรวงสมโภชสะดือเมืองภูกามยาว (พะเยา) ซึ่งเป็นเสาสะดือเมือง(หลักเมือง) เก่ามาแต่โบราณ

พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น.เป็นพิธีทักษิณานุปทานและสวดถอนเสาสะดือเมืองภูกามยาว จากนั้น เป็นพิธีอัญเชิญเสาสะดือเมืองภูกามยาวขึ้นประดิษฐาน ณ ลานพิธีสะดือเมืองภูกามยาว พิธีถวายเครื่องสักการะ บวงสรวงเทพยดาอารักษ์และเจ้าผู้ครองเมืองภูกามยาว ตามด้วยขบวนแห่เครื่องสักการะ 

จากนั้นนายอำเภอทั้ง 9 อำเภอ ถวายเครื่องสักการะ ปักตุงชัยและนำน้ำศักดิ์สิทธิ์เติมในสระรอบสะดือเมืองภูกามยาว พิธีเจริญพระพุทธมนต์ พระสงฆ์ 9 รูป จาก 6 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่านและสุโขทัย นั่งอธิษฐานจิตสะดือเมืองภูกามยาวและนั่งปรกเหรียญสะดือเมืองภูกามยาว และเจริญพระพุทธมนต์ ในขณะกำลังทำพิธีได้เกิดเหตุการณ์แปลกๆขณะนำเสาสะดือเมืองขึ้นไปยังที่อยู่ใหม่ ปรากฎว่าฟ้ามืดขึ้นมากระทันหันและมีฝูงแมลงปอบินว่อนเหนือพิธี แต่พอเสร็จพิธี ท้องฟ้ากลับเปิดแสงสว่างจ้า เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 นายเกื้อพงษ์ ชัยดรุณ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์เมืองพะเยา เปิดเผยว่า เสาหินที่ตั้งอยู่เป็นเสาหลักเมืองเก่าโบราณที่มีมาตั้งแต่ยุคสมัยเจ้าหลวงพุทธวงศ์ เจ้าหลวงองค์แรกเมืองพะเยา และคุ้มเจ้าหลวงในอดีตก็คือสถานที่พบเสาสะดือเมืองในปัจจุบัน ในสมัยโบราณจะมีการบวงสรวงทุกปี การบวงสรวงจะกระทำกันช่วงปีใหม่วันสงกรานต์ ตามคติความเชื่อโบราณที่ว่า เพื่อจะให้เทพยดาอารักษ์ประจำเมืองช่วยปกป้องคุ้มครองบ้านเมืองให้มีความสงบสุขร่มเย็นและเจริญรุ่งเรือง

พิธีกรรมดังกล่าวถือเป็นพิธีกรรมใหญ่ที่สำคัญประจำปี โดยงานจะจัดกันหลายวันและมีประชาชนมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมีการยกเลิกการปกครองแบบหัวเมืองประเทศราชประเพณีเลยหายไป แต่เสาสะดือเมืองยังคงตั้งอยู่ที่เดิมและถูกละเลยหลงลืมกันไป

จนกระทั่งนายโชคดี อมรวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้ทราบเรื่อง และเร่งดำเนินการสร้างสถานที่เก็บเสาสะดือเมืองใหม่ เพื่อให้ประชาชนชาวพะเยาได้เคารพสักการะ เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข เหมือนเมื่อครั้งอดีต 

โดย นพพร ทาทาน  / พะเยา