เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 9 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.แม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เดินทางมาเข้าพบ พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผกก.สภ.แม่แตง และพนักงานสอบสวนในคดีการลักพาตังน้องจีน่า อายุ 1 ขวบ 11 เดือน ที่ถูกลักพาตัวจากบ้านห้วยฝักดาบ ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีนี้
นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข กล่าวว่า การเข้าพบ ผกก.แม่แตง ในเช้าวันนี้ สืบเนื่องจากข้อสงสัยที่ประชาชน ตั้งคำถามว่าเด็กหายไปได้อย่างไร และการพบตัวน้องจีน่ามีหลายประเด็นที่เคลือบแคลงสงสัย รวมทั้งการที่สื่อมวลชน มีการนำเสนอข่าวชี้ถึงลักษณะการค้ามนุษย์ ที่จะนำน้องไปขายต่อ จากประสบการณ์ทำงานเรื่องเด็กหายมากว่า 10 ปี ยังไม่เคยปรากฏข้อเท็จจริง ในการนำเด็กไปขายในลักษณะนี้
ดังนั้น การมาสอบถามข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นการศึกษาองค์ความรู้การก่อเหตุในลักษณะนี้ ไปใช้เป็นแนวทางสำหรับการป้องปรามหรือติดตามเด็กหายในอนาคต ส่วนผู้ต้องสงสัยบางส่วนคิดว่าต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ในส่วนที่สื่อมวลชนเสนอไปเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยจริงเท็จมากน้อยแค่ไหน รวมถึงการหาความจริงว่ามีผู้อื่นร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่
นายเอกลักษณ์ กล่าวต่อว่า จุดที่พบเด็กเป็นไปได้ยากที่เด็กวัยเพียงแค่ไม่ถึง 2 ขวบ จะใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเองตามลำพัง เป็นเวลา 2 วัน 18 ชั่วโมง ส่วนกรณีที่หน่วยกู้ภัยไปพบเด็กบริเวณเพิงพัก ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยไปตรวจสอบแล้วแต่ไม่พบนั้น ลักษณะของเพิงพักอยู่บนเขาสูงชัน เป็นการยากมากที่เด็กในวัยนี้ จะเดินมาด้วยตัวเอง รวมทั้งสภาพพื้นที่โดยรอบบริเวณนั้นเป็นพื้นที่สูงชันทั้งหมด แม้กระทั่งคนจากพื้นที่อื่นที่ไม่เคยเดินในพื้นที่สูงชันมาก่อน ก็เป็นการยากที่จะอุ้มเด็กขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตาม สามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่าบริเวณจุดที่พบเด็ก ไม่มีคนนอกผ่านเข้าออกบริเวณด้านหลังหมู่บ้าน และไม่ใช่พื้นที่ถนนสาธารณะ เป็นเส้นทางธรรมชาติ และเข้าออกได้เฉพาะกลุ่มเฉพาะพื้นที่เท่านั้น ดังนั้นต้องมาพิจารณาว่าใครที่มีศักยภาพ สามารถนำเด็กไปไว้ในจุดนั้นได้
ภาพ/ข่าว เกรียงไกร รัตนา