svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

สิงคโปร์หวั่น สายพันธุ์เดลตาระบาด กระทบ "นิวนอร์มอล"

07 กันยายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สิงคโปร์กำลังเผชิญปัญหาการระบาดระลอกใหม่ ทำให้รัฐบาลเริ่มกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มอีกรอบ หลังมีความพยายามในการผ่อนคลายในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

สิงคโปร์ประกาศอาจต้องทบทวนมาตรการเกี่ยวกับโควิดใหม่ หากอัตราการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลต้าพุ่งสูงและไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลต่อนโยบายผ่อนคลายที่กำลังดำเนินอยู่ในสิงคโปร์ตอนนี้ ภายหลังจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสองเท่า เป็นจำนวนมากกว่า 1,200 รายต่อสัปดาห์


ขณะที่สิงคโปร์จำนวนผู้ติดเชื้อรวม 68,901 ราย และเสียชีวิตไปทั้งสิ้น 55 คน
ในวันจันทร์ที่ 6 กันยายน 2021 ลอเรน หว่อง หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโควิดเปิดเผยว่า ปัญหาไม่ได้มาจากจำนวนผู้ติดเชื้อทวีจำนวนอย่างเดียว แต่เป็นอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อตอนนี้ด้วย เพราะจากข้อมูลอ้างอิงจากต่างประเทศเมื่อจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นรวดเร็ว จำนวนผู้ป่วยหนักย่อมเพิ่มตาม รวมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตที่ยิ่งมากกว่านั้น


ที่ผ่านมาสิงคโปร์ดำเนินมาตรการควบคุมโควิดอย่างเข้มงวด สร้างข้อจำกัดขึ้นมากมายทั้งปิดพรมแดน ร้านอาหาร และบังคับรักษาระยะห่างทางสังคม จนกระทั่งเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจึงเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการเหล่านั้นลง โดยอาศัยหลักการอยู่ร่วมกับโควิดเป็นวิถีชีวิตนิวนอร์มอล


มาตรการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมาได้จากอัตราฉีดวัคซีนสูงที่สุดในโลก โดยประชากรได้รับวัคซีนครบโดสมากกว่า 80%


นั่นทำให้ในเดือนสิงหาคมสิงคโปร์เริ่มให้คนได้รับวัคซีนครบออกมากินอาหารนอกบ้านหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมขึ้นมาได้บ้าง แต่การระบาดระลอกใหม่และจำนวนตัวเลขพุ่งสูง ทำให้การผ่อนคลายหรือกลับมาเปิดประเทศต้องหยุดชะงักลง

 

นำไปสู่การควบคุมการแพร่ระบาดครั้งใหม่ที่อาจจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้น การตรวจหาเชื้อที่เดิมบังคับทำทุกสองอาทิตย์เปลี่ยนมาเป็นอาทิตย์เดียว รวมถึงขยายขอบเขตการตรวจสอบให้กว้างขึ้นไปจนถึง พนักงานขาย พนักงานส่งของ หรือเจ้าหน้าที่ขนส่งมวลชน เช่นเดียวกับคำสั่งให้ทำงานที่บ้านและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกับคนหมู่มากที่กลับมา


แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในตอนนี้จะยังมีเพียงสามหลักต่อวันแต่เพื่อความไม่ประมาท พวกเขาจึงหันมาสั่งคุมเข้มป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเลวร้าย อย่างปริมาณเตียงไอซียูหรือออกซิเจนสำหรับคนป่วยมีไม่เพียงพอ จึงต้องทำการเฝ้าระวังไว้ล่วงหน้าป้องกันไม่ให้เรื่องเหล่านั้นเกิดขึ้น


ไม่ใช่แค่สิงคโปร์ที่กำลังประสบปัญหาการระบาดระลอกใหม่ของโควิด ประเทศอื่นในภูมิภาคที่ใช้นโยบายควบคุมผู้ติดเชื้อให้เหลือศูนย์ต่างเผชิญปัญหาเดียวกัน เช่น ในออสเตเรียที่ประชาชนในรัฐนิวเซาท์เวลและวิกตอเรียต่างต้องอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์มานับเดือน


ออสเตรเลียตั้งเป้าว่าเมื่อมีการฉีดวัคซีนครบโดส เป็นจำนวน 70% ของประชากรอายุมากกว่า 16 ปี จะเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ แต่ยังมีข้อโต้แย้งจากคนในรัฐบาลด้วยกันเองว่า การเปิดประเทศอีกครั้งอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดเกินควบคุม และทำให้ความพยายามนานนับปีต้องสูญเปล่า


สอดคล้องกับความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญบางคนเช่นกัน ว่าหากผ่อนคลายมาตรการก่อนที่อัตราการฉีดวัคซีนจะเพียงพออาจหมายถึงหายนะ

logoline