รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น โนบุโอะ คิชิ และผู้บัญชาการทหารระดับสูงของญี่ปุ่นหลายคน ถูกพาไปชมส่วนต่าง ๆ ของเรือบรรทุกเครื่องบิน โดยพวกเขาได้เดินไประหว่างแถวของเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35B บนดาดฟ้า ขณะที่เจ้าหน้าที่กองทัพเรืออธิบายว่าเครื่องบินขับไล่เหล่านี้ บินขึ้นจากที่หัวเรือได้อย่างไร
ผู้การเรือ สตีฟ มัวร์เฮาส์ บอกในการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเรือรบมูลค่า 4 พัน 150 ล้านดอลลาร์ว่า“การมาเยือนญี่ปุ่นมีความสำคัญและเป็นสัญลักษณ์สำหรับเราอย่างมาก ผมคิดว่านี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 ที่เรือบรรทุกเครื่องบินของสหราชอาณาจักรมาอยู่นอกชายฝั่งญี่ปุ่น และผมคิดว่านี่เป็นหลักฐานที่ดีที่สุดที่คุณสามารถเห็นความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก”
ญี่ปุ่นมีแผนจะบินเครื่องบิน F-35B แบบบินขึ้นระยะสั้น และลงจอดในแนวดิ่งจากเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ดัดแปลง 2 ลำ และกำลังพยายามขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงให้กว้างขึ้นนอก เหนือไปจากพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ เพื่อช่วยให้ญี่ปุ่นแข่งกับอิทธิพลของจีนที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นภัยคุกคามภูมิภาคนี้ รวมถึง ต่อเอกราชของไต้หวัน
เรือควีนเอลิซาเบธ พร้อมกับเรือพิฆาต 2 ลำ เรือฟริเกต 2 ลำ เรือดำน้ำ 1 ลำ และเรือสนับสนุน 2 ลำ ออกเดินทางจากอังกฤษในเดือนพฤษภาคม และแล่นผ่านน่านน้ำรวมถึงทะเลจีนใต้ที่มีการโต้แย้ง ซึ่งจีนอ้างการครอบครอง 90% ก่อนที่จะเดินทางถึงญี่ปุ่นในวันเสาร์ นับเป็นเทียบท่าที่ไกลที่สุดในการเดินทางเที่ยวแรก
หลังจากที่กองเรือบรรทุกเครื่องบินควีนเอลิซาเบธกลับไป เรือรบสองลำจะยังคงประจำการอยู่ในภูมิภาคนี้ เนื่องจากลอนดอนมองหาบทบาทที่ใหญ่มากขึ้น หลังจากการออกมาจากสหภาพยุโรป
ขณะจอดเทียบท่าในเมืองโยโกสุกะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเรือรบยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน เรือบรรทุกเครื่องบินลำเดียวของวอชิงตันที่ถูกส่งมาอยู่ในด่านหน้า เรือควีนเอลิซาเบธจะเป็นเจ้าภาพต้อนรับการมาเยือนของผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นด้วย เนื่องจากอังกฤษหลัง Brexit พยายามสร้างข้อตกลงทางธุรกิจ