พท.ยื่น ปปช. สอบ ผู้บริหาร พม. ทุจริต“โครงการเคหะสุขประชา”

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย จิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการปปช. พร้อมแนบพยานหลักฐาน และ เอกสารรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมาธิการฯ กรณีการละเมิดกฎหมาย  ภายใต้สังกัดของรัฐมนตรีพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ตั้งแต่ รัฐมนตรี จุติ ไกรฤกษ์ ,ผู้บริหารกระทรวง ,ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ,รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ดำเนิน “โครงการบ้านเคหะสุขประชา” มูลค่ากว่าแสนล้านบาท

โดยระบุ ว่า การดำเนินโครงการ หลีกเลี่ยงกฎหมายหลายฉบับ โดยมีเจตนาไม่สุจริต เรื่องนี้คณะกรรมาธิการใช้เวลาสืบสวนสอบสวนนานกว่า 5 เดือน จนสามารถสรุปเป็นเหตุผลสำคัญ ในการดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ และ รู้สึกผิดหวังกับรัฐบาล เพราะเมื่อได้ร้องทุกข์ให้นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ  แต่ก็มีเพียงหนังสือตอบกลับ ว่าได้ตั้ง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพาณิชย์  เป็นประธานตรวจสอบ นายจุติ ไกรฤกษ์ ที่เป็นลูกพรรคของตนเอง

"กมธ. จึงไม่อาจไว้วางในความโปร่งใสของรัฐบาลได้ จึงต้องมายื่น เรื่องตรงให้กับ ปปช. เพื่อตั้งคณะอนุฯ ขึ้นมาไต่สวน" 

นายจิรายุ บอกว่า การจัดทำโครงการเคหะสุขประชาของการเคหะฯ  มูลค่าเกือบแสนล้านบาท ไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะไม่ใช่โครงการที่ช่วยประชาชนในสถานการณ์โควิด  แต่มีการลักไก่แอบใช้ แค่ “ครม.รับทราบ” ไปทำโครงการนำร่อง 2 แห่งทั้งๆ ที่ ครม. ยังไม่ได้อนุมัติ ไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีขออนุญาตก่อสร้าง ,ไม่ทำตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ 

ผู้บริหารกระทรวงฯ และการเคหะฯ มีเจตนาพิเศษ ในการทำผิดกฎหมาย ว่า จ้างเอกชนถมดินรอไว้ทั่วประเทศมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท ทั้งๆที่ ครม. ยังไม่อนุมัติโครงการ และการจ้างเอกชน ผู้รับงานอย่างผิดกฎหมาย

เชื่อว่า ผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และการเคหะฯ ใช้กฎหมายเลี่ยงการตรวจสอบ เอื้อประโยชน์พวกพ้อง จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  ขณะที่รัฐมนตรี และผู้บริหารกระทรวงรู้เห็นเป็นใจ ให้การเคหะฯ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่โดยไม่ขอมติ ครม. และนำมารับงานของการเคหะฯ อันมีผลประโยชน์ทับซ้อน