svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อาฟเตอร์ช็อกการเมือง หลังจบศึกซักฟอก!

06 กันยายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หลังจบศึกซักฟอก สปอร์ตไลท์การเมือง ก็สาดส่องไปที่กลุ่ม 3ช. ทันที ว่า จะมีการปรับเปลี่ยนอะไรหรือไม่ ทั้งในครม. และพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะถูกริบดาบทั้งหมด

6 กันยายน 2564 หลังจบศึกการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ผ่านแบบกระท่อนกระแท่น เพราะได้คะแนนพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะขาดเสียงของพรรคเล็กไป 4 เสียง ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่า รายงานข่าวล้มรัฐบาลตลอดสัปดาห์นั้น มีมูล และเมื่อมีมูล ก็ย่อมส่งผลให้เกิดอาฟเตอร์ช็อก อย่างแน่นอน ทั้งในคณะรัฐมนตรี เอง และในพรรคพลังประชารัฐ 

 

โดยแหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาล วิเคราะห์ให้ฟังว่า ตามนิสัยของทหาร จะไม่เก็บหอกข้างแคร่ ไว้ใกล้ตัว ดังนั้น เมื่อคลื่นลมเงียบสงบ จะมีการปรับผู้ที่เดินเกม ออกจากคณะรัฐมนตรี อย่างแน่นอน โดยมีอย่างน้อย 3 รัฐมนตรีช่วย ที่ต้องหลุดออกจากเก้าอี้ หรือ ที่ตามสื่อเรียกกว่า แก๊งค์ 3 ช. นั่นเอง เพราะนอกจากดับไฟไม่ให้ลามทุ่งแล้ว เมื่อมานั่งกางผลงานของ 3 รมช. ก็แทบไม่พบผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งบางคนประชาชนยังแทบจำไม่ได้ว่าเป็นรัฐมนตรี จนกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มรัฐมนตรีโลกลืม  

 

แหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาล ยังมองว่า โควต้า รมช. 3 เก้าอี้ นอกจาก นายกฯ จะให้พรรคเป็นผู้จัดสรรเองแล้ว ยังน่าจะลดช่องว่างกับ ส.ส. ด้วยการคลายอำนาจบางส่วน อาจจะมีการคืนโควต้ากลางของนายกฯ ให้ส.ส.ของพรรคบ้าง เพื่อเปิดพื้นที่ให้ ส.ส.ได้อัพโปรไฟล์ สร้างผลงาน นำไปใช้ในการหาเสียงครั้งหน้า เพราะในพรรคเอง มีส.ส.หลายสมัย ที่ยังไม่ได้ขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรี อยู่หลายคน เนื่องจาก ที่ผ่านมา มีส.ส.ป้ายแดง ปาดหน้าขึ้นชั้นรัฐมนตรี ไปก็หลายคน

ขณะที่ แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค รอบนี้ คงไม่วุ่นวาย หากมีการปรับโครงสร้างพรรคใหม่เสร็จสิ้นแล้ว เพราะทุกอย่าง จะกลับเข้ามาเป็นระบบเหมือนเดิม และโควต้าเก้าอี้ รมช.3 ตัว ก็จะจัดสรร ให้กับผู้ที่ต่อคิวของแต่ละก๊ก ดังนั้น เมื่อเป็นไปตามลำดับ ก็จะไม่เกิดความวุ่นวาย แต่การจะเสนอชื่อในโควต้าพรรคได้ ต้องปรับโครงสร้างพรรคใหม่ก่อน 

 

แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคพลังประชารัฐ ยังวิเคราะห์ให้ฟังว่า  เร็วๆนี้ พรรคพลังประชารัฐ จะมีการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค เพราะเดือนนี้ จะเกิดอาฟเตอร์ช็อก หลายครั้ง เริ่มด้วย อัยการ เตรียมยื่นฟ้อง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล คดีทุจริตโครงการสร้างสนามฟุตซอล ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 14 ก.ย.นี้ รวมถึงอาจมีการเปลี่ยนเลขาธิการพรรค ดังนั้น มีความเป็นไปได้ ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะไขก๊อกลาออก เพื่อให้กรรมการบริหารพรรคพ้นจากตำแหน่งเหมือนเดิม และจะได้มีการปรับโครงสร้างกันใหม่

 

แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคพลังประชารัฐ ยังฟันธงว่า พล.อ.ประวิตร ยังนั่งหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม ส่วนเลขาธิการพรรค น่าจะปูนบำเหน็จ ให้ นายสันติ พร้อมพัฒ์ รมช.คลัง ที่ผิดหวังไปหลายครั้ง แต่รอบนี้ ยอมเปิดหน้าเดินกวาดเสียงช่วยนายกฯ สุดตัว จึงน่าจะถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่วนก๊กของ 3 ช. น่าจะถูกริบดาบทั้งหมด ทำให้อาจจะปรับโครงสร้างใหม่เกือบทั้งหมด รวมถึงทีมโฆษกของพรรคด้วย ส่วนเก้าอิ้ ประธานวิปรัฐบาล ยังไม่มีการเตรียมคนที่จะขึ้นมาทำหน้าที่แทนนายวิรัช แต่ก็เริ่มมีบางรายชื่อหลุดออกมา อาทิ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ร.อ.ธรรมนัส เคยแถลงข่าวหลังรับเก้าอี้เลขาฯ โดยมี นายสันติ ยืนเคียงข้าง

แหล่งข่าวระดับสูงอีกคนในพรรคพลังประชารัฐ ยังมองว่า แต่เกมทั้งหมดก็ใช่ว่า จะจบแบบตัดหางกลุ่ม 3 ช. เพราะช่วงนี้ ฝุ่นยังไม่หายตลบ ซึ่งกลุ่ม 3 ช. ก็อาจจะยังสามารถอยู่ช่วย 3 ป. ได้ เพราะท่าทีนายกฯ ก็ไม่ได้แข็งกร้าวขนาดนั้น แต่ในทางกลับกัน นายกฯยังรับปาก จะปรับตัวเข้าหา ส.ส.มากขึ้น และการเดินเกมทั้งหมด ของ 3 ช. ก็เหมือน เป็นตัวแทน ส.ส.ในการสะท้อนปัญหา เพราะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค ที่ต้องดูแลทุกข์สุขปัญหาของลูกพรรค ซึ่งการกล้าสะท้อนปัญญา ย่อมได้ใจส.ส.ในพรรคไม่น้อย 

 

ดังนั้น เกมนี้ จะจบอย่างไร ต้องวัดใจ 3 ป. เพราะกลุ่ม 3 ช. ก็อ้างว่า ทำเพื่อ ส.ส. แต่ถ้านายกฯ ยังเลี้ยง 3 ช. ต่อ แล้วกลุ่มที่เดินกวาดเสียงกลับมาช่วยนายกฯ จะอยู่ต่ออย่างไร  เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส ยังกุมอำนาจเบ็ดเสร็จในพรรค ซึ่งแน่นอนว่า แค้นนี้ จะยิ่งทำให้อุณหภูมิการเมืองภายในรัฐบาลร้อนขึ้นอย่างแน่นอน เพราะในเมื่อ ร.อ.ธรรมนัส ยังผงาด อดีตเพื่อรักหักเหลี่ยมโหด อย่าง นายสันติ หรือ นายสุชาติ ชมกลิ่น คงอยู่ต่อลำบาก

logoline