“รมว.ดีอีเอส” การันตี “ทีวีจอไม่ดำ” หลัง ไทยคมหมดสัญญาสัมปทาน

5 กันยายน 2564 จากกรณีที่ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กำลังสิ้นสุดสัมปทานดาวเทียมไทยคม 4 และ ดาวเทียมไทยคม 6 ในวันที่ 10 ก.ย. นี้ โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ได้มอบหมายสิทธิบริหารจัดการให้ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ทำหน้าที่บริหารจัดการ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เปิดเผยชัดเจนหลังจากถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล กรณีการเปลี่ยนผ่านสัมปทานครั้งประวัติศาสตร์ ยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์  และ ไม่ได้มีการผูกขาดเหมือนที่หลายฝ่ายตั้งคำถาม

“วันที่ 10 กันยายนนี้ สัมปทานดาวเทียมไทยคมดวงที่ 4 และ ดวงที่ 6 บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) สิ้นสุดสัมปทานให้บริการเป็นระยะเวลา 30 ปี โดยกระบวนการโอนทรัพย์สินเริ่มวันแรก 11 ก.ย.นี้ โดย ไทยคม จะส่งคืนดาวเทียมทั้ง 2 ดวงมาให้ ส่วนเทเลพอร์ตเซอร์วิส หรือ เกตเวย์ และ สถานีภาคพื้นดิน เป็นสิทธิของไทยคม”

สัญญาณภาคพื้นดิน ที่เป็นทรัพย์สินของไทยคม  ดังนั้นการทำธุรกิจดาวเทียม จำเป็นต้องใช้สถานีฐานอัพลิงค์ และ ดาวน์ลิงค์ เพื่อรับส่งสัญญาณ ซึ่งบางส่วน NT ให้บริการเองและบางส่วนต้องเช่าใช้จาก ไทยคม เพราะเป็นผู้ให้บริการสถานีแม่ข่าย Gateway Service ทั้งในและต่างประเทศ

“เราไม่ได้ยกสิทธิสัมปทานให้ต่อ  เพราะ NT  ยังไม่มีความพร้อมถ้าสัญญาณไม่พอไปเช่าไปใช้บริการของ ไทยคม เพื่อให้สัญญาณบริการกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”

ปัจจุบันไทยคม 4  มีผู้ใช้บริการอยู่ที่  80%  ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ใช้งานจากต่างประเทศ  ขณะที่ NT เป็นบริษัทตั้งใหม่ ไม่มีตัวแทนหรือพาร์ทเนอร์ต่างประเทศ  จึงได้แต่งตั้งไทยคม เป็นตัวแทนทำตลาดต่างประเทศ  ส่วนอีก 20% เป็นลูกค้าในประเทศ NT  สามารถบริหารกับลูกค้าในส่วนนี้ได้จึงให้รับผิดชอบการบริการ  

ส่วนไทยคม 6  ซึ่งเป็นดาวเทียมบรอดแคส มีลูกค้าเอกชนและภาครัฐประมาณ 60% มอบหมายให้ NT ไปบริหารการขายโดยตรงกับลูกค้า ส่วนอีก  34% เป็นลูกค้าต่างประเทศ มอบหมายให้ ไทยคม เป็นตัวแทน หรือพาร์ทเนอร์ดูแลลูกค้าต่างประเทศ

“การทำธุรกิจดาวเทียมของ NT  ไม่มีการเอื้อประโยชน์

 

ไทยคม ไม่ได้เป็นสัมปทานผูกขาดตัดตอนต่อเนื่องจากฝ่ายค้านกล่าว ไม่ได้เอื้อประโยชน์ใคร

 

ผู้ใช้บริการทุกคนต้องใช้งานต่อเนื่อง ไม่มีทีวีจอดำ อะไรจำเป็นต้องร่วมมือก็ต้องร่วมมือ อะไรทำเองได้ก็ทำเองให้ได้มากที่สุด และ ที่สำคัญคุ้มครองผู้บริโภคประชาชนไม่เสียค่าบริการที่แพง”