3 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 12 .10 น. หลังจากจุฬาราชมนตรี ได้มีผ่อนปรนให้ละหมาดญะมาอะห์ หรือการละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิดได้ ภายใต้มาตรการ ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19 อย่างเคร่งครัด ทำให้เกือบทุกมัสยิดในจังหวัดปัตตานี ปรากฏว่ามีพี่น้องชาวไทยมุสลิมได้เดินทางมาละหมาดวันศุกร์เป็นวันแรกกันอย่างคึกคัก
โดยเฉพาะมัสยิดรายอ ต.จะบังติกอ อ.เมือง ได้มีการตั้งเจลล้างมือบริเวณประตูทางเข้าทุกประตู พร้อมกับตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ และยังมีหน้ากากอนามัยอีกด้วย ซึ่งผู้ที่มาละหมาดในมัสยิดดังกล่าวในวันนี้ ทุกคนให้ความร่วมมือป้องกันโควิด19อย่างเคร่งครัด และจุดยืนที่ทุกคนละหมาดก็ได้มีการเว้นระยะห่าง สวมแมสกันทุกคน ทั้งนี้มีเพียงบางมัสยิดเท่านั้นที่ยังอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด จังหวัดจึงยังไม่อนุญาติให้ละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิดได้
อย่างไรก็ตาม มัสยิดที่เปิดให้ละหมาดได้นั้นจะต้องปฏิบัติภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19 อย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย ประชากรที่อยู่ในชุมชนมีอัตราการได้รับการฉีดวัคซีนแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 % และผู้ที่มาละหมาดจะต้องอายุ 18 ปี ขึ้นไป และได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว อย่างน้อย 1 เข็ม การใช้เวลาในการปฏิบัติศาสนกิจเริ่มตั้งแต่อะซานจนกระทั่งเสร็จสิ้นการละหมาด ไม่เกิน 45 นาที และต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด การตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างแถวการละหมาด 1.5 - 2 เมตร การจัดจุดล้างมือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การอาบน้ำละหมาดจากที่บ้าน การนำผ้าปูละหมาดของตนเองมาด้วย และการลงทะเบียนทุกครั้งที่มาปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิด
ภาพ/ข่าว โดย:
ปาเรซ โลหะสัณห์ จ.ปัตตานี