เวลา 18.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย (อ่านต่อรายละเอียด) ว่า ระบบสาธารณสุขไทยไม่ได้ล้มเหลว มีมาตรการควบคุมแต่ละช่วงแตกต่างกัน ไม่มีใครต้องการละเว้นในสิ่งที่ต้องกำกับดูแล มีมาตรการเฝ้าระวัง ควบคุมโรค การสุ่มตรวจเชิงรุก
ส่วนเรื่องชุดตรวจATKนั้น รัฐบาลจัดหามา 8.5 ล้านชิ้น ให้สอดคล้องสถานการณ์ ยืนยันไม่เคยสั่งการให้ซื้อชุดเอทีเคที่ผ่านการรับรองจาก WHO จำได้ว่าไม่ได้พูด ถอดเทปการประชุมดูก็ไม่มี และตอนนั้นยังไม่มีการรับรองมาตรฐานจาก WHO ให้กับประชาชน เรื่องโควิด-19 จะไม่โทษใคร เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกัน ช่วงแรกอาจมีการตกหล่น เพราะโรงพยาบาลเต็ม แต่ก็มีการพัฒนาแก้ปัญหา จนสถานการณ์ดีขึ้น ไม่มีการปกปิดยอดตามที่พูด
"เสียใจที่มีการสูญเสีย ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ไม่อาจไปค้าความตาย อย่าใช้คำพูดเว่อร์เกินไป เข้าใจหัวอกครอบครัว ตนก็มีพ่อแม่ ไม่สามารถไปสั่งการให้ฉีดวัคซีนอย่างไรก็ได้ ขอให้ฟังหมอด้วย วันนี้เราต้องอยู่กับโควิดให้ได้ จึงต้องมีมาตรการคลายล็อกตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ให้เศรษฐกิจและสุขภาพเดินไปด้วยกัน"
เรื่องแซนด์บ็อก จ.ภูเก็ตไม่ได้ล้มเหลว เรื่องการทุจริตก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ ไม่ใช่คนที่ตื่นเช้าขึ้นมาแล้วจะสั่งโน้นสั่งนี่ ไอ้นั่นมันบ้าแล้ว การตัดสินใจของตน ยึดหลักการ สถิติ ไม่ได้ตัดสินใจอะไรเอง ไม่เคยสั่งการอะไรลับ ไม่เคยทุจริต และไม่คุ้นเคยทุจริต การตัดสินใจของทหารละเอียด ต้องรับฟัง รอบคอบ ส่วนที่บอกตนรวบอำนาจ ก็เป็นการโอนอำนาจแค่ชั่วคราว ไม่ใช่อะไรก็เป็นเรื่องฉุกเฉินตลอด ถ้าเป็นเช่นนั้นก็บ้าแล้ว
เรื่องแทงม้าตัวเดียว วัคซีนล่าช้า ไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกค์ ชี้แจงได้อยู่แล้ว ไปดูประเทศที่เป็นสมาชิกในวันนี้ยังไม่ได้วัคซีนตามจำนวนที่ต้องการ เราไม่ได้ร้องบริจาคใคร เขาบริจาคให้เราเอง คิดว่าตนจะไปร้องขอใครเหรอ สิ่งที่ตนได้รับการสั่งสอนจากพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ให้พูดจาสุภาพเรียบร้อย ไม่พูดหยาบคาย เหยียดหยาม ดูถูกด สอนไว้ว่า สำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล พยายามจะทำให้สภาแห่งนี้เป็นสภาของผู้ทรงเกียรติอย่างแท้จริง