แฉเละรัฐบาลจัดซื้อวัคซีน "ซิโนแวค" มีค่าส่วนต่าง 2 พันล้านบาท

ที่อาคารรัฐสภา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข บริหารงานล้มเหลว 4 ด้าน คือ 1.การควบคุมการระบาดไวรัสโควิด 2.การจัดหาวัคซีน ที่มีเจตนาไม่เข้าโครงการโคแวกซ์ตั้งแต่ต้น เพราะไม่มีเงินทอน ทำให้ประเทศเสียหาย และเพิกเฉยเอกชนเรื่องขอนำเข้าวัคซีนทางเลือก 3.การกระจายวัคซีนไม่สอดคล้องความเป็นจริงหลายพื้นที่ 4.เรื่องการบริหารงานในสถานการณ์วิกฤต เหมือนสถานการณ์ปกติไม่มีความเด็ดขาด

“สิ่งที่น่าเสียใจมากที่สุด คือ การค้าความตาย หากินบนความตายของประชาชน ด้วยการซื้อวัคซีนคุณภาพต่ำ แต่มีราคาแพง เอื้อประโยชน์บริษัทเอกชน ทำให้ซิโนแวคเป็นวัคซีนเส้นใหญ่”

ส่วนการจัดซื้อซิโนแวคมีพิรุธหลายอย่าง โดยการจัดซื้อครั้งที่ 1 มีแผนการนำเข้า 2 ล้านโดส นำเข้าได้จริง 1.9 ล้านโดส ราคาที่อนุมัติ 17.0 เหรียญสหรัฐต่อโดส ราคาซื้อจริง 17.0 เหรียญสหรัฐต่อโดส , ครั้งที่ 2 ราคาที่อนุมัติ 17.0 เหรียญสหรัฐต่อโดส ราคาซื้อจริง 15.0 เหรียญสหรัฐต่อโดส , ครั้งที่ 3 ราคาที่อนุมัติ 17.0 เหรียญสหรัฐต่อโดส ราคาซื้อจริง 14.0 เหรียญสหรัฐต่อโดส , ครั้งที่ 4 ราคาที่อนุมัติ 17.0 เหรียญสหรัฐต่อโดส ราคาซื้อจริง 9.5 เหรียญสหรัฐต่อโดส , ครั้งที่ 5 ราคาที่อนุมัติ 17.0 เหรียญสหรัฐต่อโดส ราคาซื้อจริง 9.0 เหรียญสหรัฐต่อโดส

จากข้อมูลทั้งหมดพบว่า ราคาตามที่ ครม.อนุมัติในการจัดซื้อทั้ง 5 ครั้ง คือ 331,500,000 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท 10,846,680,000 บาท ส่วนราคาที่จัดซื้อจริง คือ 267,364,000 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท 8,748,150,080 บาท ทำให้เกิดส่วนต่างในการจัดซื้อทั้งสิ้น 2,098,529,920 บาท จึงอยากถามถึงเงินส่วนต่างว่าหายไปไหน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายของนายประเสริฐ มีการกล่าวพาดพิงถึงองค์กร และบุคคลภายนอก รวมถึงพูดถึงคุณภาพของซิโนแวคหลายครั้ง ทำให้นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า อาจทำให้เกิดความเสียหาย และการด้อยค่าวัคซีน อาจทำให้ประชาชนที่ได้ฉีดซิโนแวคไปแล้ว เกิดความเข้าใจผิด

จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้เตือนนายประเสริฐ โดยขอให้หลีกเลี่ยงการนำเสนอภาพบุคคลภายนอก และจะอนุญาตอย่างเต็มที่ในการอภิปรายฝ่ายบริหาร เพราะบุคคลภายนอกไม่มีโอกาสมาชี้แจง และขอให้ระมัดระวังการอภิปรายถึงคุณภาพของวัคซีน เพราะอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ