ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2540 สื่อต่างๆ ทั่วโลกได้มีการรายงานข่าวการสิ้นพระชนม์อย่างกระทันหันของ "ไดอานา" เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ภายในอุโมงค์ทางลอดสะพานปองต์เดอลัลมา กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เหตุการในครั้งนั้นนอกจากเจ้าหญิงไดอานาแล้ว ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 2 คน คือ โดดี ฟาเยด เพื่อนชายคนสนิทของเจ้าหญิงไดอานา และอ็องรี ปอล คนขับรถ ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มีเพียง "เทรเวอร์ รีส์-โจนส์" เท่านั้น ที่เป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
หลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา ช่างภาพปาปารัซซี ได้ตกเป็นจำเลยของสังคมในทันที เนื่องจากมีการนำเสนอข่าวออกมาว่า ช่างภาพปาปารัซซีเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้น แต่การสืบสวนของหน่วยงานยุติธรรมฝรั่งเศส ที่ใช้เวลาสืบสวนกว่า 18 เดือน สรุปผลออกมาว่า "อ็องรี ปอล" คนขับรถ อยู่ในอาการมึนเมาขณะขับรถยนต์ และไม่สามารถควบคุมรถซึ่งขับมาด้วยความเร็วสูงได้ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุในคืนนั้น ด้านเจ้าหน้าที่นิติเวชยังตรวจพบยาต้านอาการทางจิต และยาต้านโรคซึมเศร้าในตัวอย่างเลือดของอ็องรี ปอล และอีกหนึ่งข้อสรุปก็คือ กลุ่มช่างภาพปาปารัซซีไม่ได้อยู่ใกล้กับรถเบนซ์ในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ
แม้จะผ่านมา 24 ปีแล้ว หลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา แต่เจ้าหญิงแห่งเวลส์ยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลก เพราะนอกจากพระสิริโฉมที่งดงามและพระอิริยาบถที่เป็นธรรมชาติแล้ว ระหว่างที่เจ้าหญิงไดอานายังมีพระชนม์ชีพอยู่ เจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงได้รับเสียงชื่นชมว่าทำให้สมาชิกราชวงศ์ของอังกฤษเข้าถึงผู้คนมากขึ้น จากวิธีที่ทรงปฎิบัติต่อผู้คนอย่างเป็นธรรมชาติและไม่ถือพระองค์