"นิพิฏฐ์"ชี้ รัฐ-สภาลอยตัวปฏิรูปตำรวจเหลวเชื่อไม่นานมีคดีแบบ”โจ้”ซ้ำอีก

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก ถึงกรณีดคีของ “อดีตผู้กำกับโจ้” หรือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์

โดบเปรียบเทียบความเน่าเฟะขององค์กรตำรวจ เรื่องนี้รัฐบาล ตกเป็นจำเลยที่1  รัฐสภาตกเป็นจำเลยที่ 2 เพราะการปฏิรูปตำรวจ รัฐบาล และ รัฐสภาได้มีการพูดเรื่องนี้มานานแล้วแต่ไม่คืบหน้า

และหากจะพูดถึงเพียงการกระทำของ “อดีตผู้กำกับโจ้” เฉพาะในคดีนี้คือจำเลยที่ 3  ดังนั้นจึงมองว่าในคดีนี้จำเลยที่ 1 และ ที่ 2 หลุดคดี ลงโทษเฉพาะจำเลยที่ 3 เพียงคนเดียว ถ้าเป็นอย่างนี้ ไม่นานเราก็จะเห็น คดีโจ้ 2 โจ้ 3 เกิดขึ้นมาอีกไม่มีที่สิ้นสุด

จำเลยที่ 1 และ ที่ 2 หลุดคดี

-การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ทำร้ายผู้ต้องหาจนตาย ผิด 100% ไม่ว่ามองด้านไหน ส่วนจะผิดข้อหาไหน ก็อีกเรื่องหนึ่ง  การซ้อมผู้ต้องหาเพื่อให้รับสารภาพมีมาตลอด เรื่องนี้ เป็นการซ้อม-ทำร้าย เพื่อให้ผู้ต้องหาบอกที่ซ่อนยาบ้า 200,000 เม็ด การค้ายาบ้า 200,000 เม็ด ไม่ว่าจะอย่างไรทางกฎหมายก็มีโทษถึงประหารชีวิต แม้การที่เจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่า ต้องการสกัดยา 200,000 เม็ดไม่ให้ถึงมือประชาชน ก็อ้างได้แต่รับฟังไม่ได้

-เวลาจับยาบ้าเป็นแสน เป็นล้านเม็ด เราจึงมักจะได้ยินประชาชนพูดว่า"น่าจะประหารชีวิตให้หมด" แต่การประหารนั้น ทำได้เพียงโดยคำพิพากษาของศาล หรือ หากตามความเชื่อบางศาสนาก็บอกว่า การทำให้ชีวิตมนุษย์ตกไป ต้องเป็นไปตามบัญชาของพระเจ้าเท่านั้น

-ไม่ว่ามองด้านไหน เจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่มีสิทธิทำร้ายร่างกายแน่นอน ไม่ว่าผู้ต้องหาจะค้ายาบ้า เพียง 2 เม็ด หรือ 200,000 เม็ด

-เวลาเราเอาความเน่าเฟะขององค์กรตำรวจ มาผนวกกับคดีนี้ บางที จึงยากที่จะรู้ว่า เราต้องการอะไรกันแน่ 

1.ถ้าเราจะตำหนิความเน่าเฟะขององค์กรตำรวจ เรื่องนี้ รัฐบาล ตกเป็นจำเลยที่1. รัฐสภาตกเป็นจำเลยที่ 2. เพราะการปฏิรูปตำรวจ รัฐบาล และ รัฐสภา พูดเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ไม่คืบหน้า

2.แต่หากจะพูดถึงเพียงการกระทำของผู้กำกับโจ้เฉพาะในคดีนี้ แน่นอน เขาคือจำเลยที่ 3

-คดีนี้ โชคดีเสียนี่กระไร ไม่มีใครพูดถึงจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2   และดูเหมือนศาลประชาชน จะยกฟ้องจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไปแล้ว ลงโทษเฉพาะจำเลยที่ 3 เพียงคนเดียว ถ้าเป็นอย่างนี้ ไม่นานเราก็จะเห็น คดีโจ้ 2 โจ้ 3 เกิดขึ้นมาอีกไม่มีที่สิ้นสุด