svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตะลึง! เปิดกรุรถหรู "ผกก.โจ้" เจอซุกไว้กว่า 40 คัน ยิ่งคุ้ยที่มาชวนอึ้งกว่า

25 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตะลึง! เปิดกรุรถหรู "ผกก.โจ้" เจอซุกไว้เพียบกว่า 40 คัน ทั้ง เฟอร์รารี่ แลมโบกินี ฯลฯ ยิ่งคุ้ยที่มาชวนอึ้งกว่า ไม่ผิดคาดส่วนหนึ่งมีเอี่ยวธุรกิจรถยนต์หรูสีเทา

ความคืบหน้าคดีของ “ผกก.โจ้” หรือ “พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล” อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่เจ้าตัวยังคงหลบหนีการจับกุม โดยวันนี้ (25 ส.ค.) ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ได้เข้าค้นบ้านหรู มูลค่าไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท พบรถยนต์หรูจอดเรียงราย 13 คัน (อ่านต่อรายละเอียด) 

ที่ต้องตะลึงคือ มีรถหรูที่มีชื่อของ ผกก.โจ้ เป็นผู้ครอบครองถึง 29 คัน ทั้ง ปอร์เช่ เฟอร์รารี่ แลมโบกินี และรถอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากร่วม 40 คัน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบที่มา

ตะลึง! เปิดกรุรถหรู "ผกก.โจ้" เจอซุกไว้กว่า 40 คัน ยิ่งคุ้ยที่มาชวนอึ้งกว่า

ตะลึง! เปิดกรุรถหรู "ผกก.โจ้" เจอซุกไว้กว่า 40 คัน ยิ่งคุ้ยที่มาชวนอึ้งกว่า

ตะลึง! เปิดกรุรถหรู "ผกก.โจ้" เจอซุกไว้กว่า 40 คัน ยิ่งคุ้ยที่มาชวนอึ้งกว่า

ประเด็นที่น่าสนใจคือ แหล่งขุมทรัพย์ของ "ผกก.โจ้" ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจมาจากการใช้อำนาจหน้าที่ โดยเฉพาะในฐานะมือปราบยาเสพติด มารีดเงินบาปจากขบวนการค้ายานรก หรือไม่อย่างไร แต่นั่นก็อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่ง" 

ต้องไม่ลืมว่า "ผกก.โจ้" มีอีกฉายาว่า “โจ้ เฟอร์รารี่” จึงเป็นไปได้ว่า "แหล่งขุมทรัพย์อีกแหล่งของ "โจ้เฟอร์รารี่" อาจจะมาจากวงการรถยนต์แบบสีเทาๆ"  

มีรายงานระบุที่มาความรวยของ "ผกก.โจ้" ว่า พื้นฐานทางบ้าน "ผกก.โจ้" ไม่ได้ร่ำรวยมาแต่ต้น แต่เป็นเพราะความเก่งกาจในการ "หาเงิน" และ "ช่องทาง" มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ และจุดพลิกผันให้ได้เป็นเศรษฐี คือการได้รับตำแหน่งรอง ผกก.กก.1 บก.ปส.4 ดูแลพื้นที่ภาคใต้ 

นอกจากทำคดียาเสพติดรายใหญ่จนสร้างชื่อเป็นมือปราบปรามยาเสพติดแล้ว ยังทำให้ได้คลุกคลีเข้าถึงผู้ต้องหายาเสพติดรายใหญ่ๆ ในวงการธุรกิจ “สีดำ” รวมไปถึงเปิดทางให้เข้าสู่วงการธุรกิจ “รังนก” ที่เป็นธุรกิจ “สีเทา” เกี่ยวกับอิทธิพลมาเฟีย อีกด้วย

ตะลึง! เปิดกรุรถหรู "ผกก.โจ้" เจอซุกไว้กว่า 40 คัน ยิ่งคุ้ยที่มาชวนอึ้งกว่า

ตะลึง! เปิดกรุรถหรู "ผกก.โจ้" เจอซุกไว้กว่า 40 คัน ยิ่งคุ้ยที่มาชวนอึ้งกว่า

ว่ากันว่าจากคอนเนกชันธุรกิจสีเทา "ผกก.โจ้" เห็นโอกาสทำมาหากินกับ “รถหรู และซูเปอร์คาร์” แบบที่ใครก็คาดไม่ถึง โดยเริ่มจากเลือกรถหรูที่ฝั่งมาเลเซียที่มีราคาถูกกว่าไทยเยอะ ยกตัวอย่าง BMW ราคาอยู่ที่ประมาณ 4 แสน ลงทุนซื้อที่มาเลเซียแล้วลักลอบเอาเข้าไทย จากนั้นทำทีปั้นคดีว่า “จับรถ” เจอรถต้องสงสัยนำเข้าผิดกฎหมาย แต่ไม่เจอผู้ต้องหา

คดีแบบนี้ปลายทางรถจะถูกส่งให้ศุลกากร เพื่อนำสู่ออกขายทอดตลาดด้วยวิธีประมูล สมมติว่า BMW คันดังกล่าว ประมูลได้ในราคา 2 ล้าน สิ่งที่ ผกก.โจ้ จะได้ตามมา คือ 1.รางวัลนำจับ  2.ค่าสายข่าว ทั้งสองส่วนนี้คิดเป็น 45% ของราคา 2 ล้าน หรือ 900,000 ทันที 

เท่ากับว่า รถ BMW คันนี้ หักทุน 400,000 บาทแล้ว "ผกก.โจ้" จะได้กำไร 500,000 บาท ว่ากันว่ามีการทำลักษณะนี้หลายครั้ง มีรถหรู-สปอร์ตคาร์ หลายยี่ห้อ ด้วยวิธีลงทุนเอง จับเอง ส่งศุลกากร บางคันจะเก็บไว้ใช้เอง ก็ฮั้วกับเจ้าหน้าที่กรมศุลฯ ปล่อยราคาถูกๆ หรือถอดอะไหล่ ถอดอุปกรณ์บางอย่างออกให้ราคาตก โดยช่วงพีกๆ กรมศุลฯ จัดประมูลรถลักษณะอย่างนี้ทุกเดือน เดือนหนึ่งก็ราวๆ 400 คัน ว่ากันว่า เป็นรถในเครือข่ายของ ผกก.โจ้ เสียครึ่งหนึ่ง 

คำนวณดูเอาว่า แต่ละเดือน “ผู้กำกับโจ้” จะมีรายได้เท่าไหร่ ? แถมเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย เพราะเป็นรางวัลนำจับ และค่าสายข่าว ที่ศุลกากรต้องจ่ายตามกฎ รวยไม่รวยก็ถึงขนาดเคยอ้างกับอดีตแฟนสาวที่เป็นดาราว่า พร้อมจะยกเงินที่ซุกไว้กว่า 230 ล้านบาทให้โดยไม่เสียดาย

แชทกับอดีตแฟนสาวดารา

ตะลึง! เปิดกรุรถหรู "ผกก.โจ้" เจอซุกไว้กว่า 40 คัน ยิ่งคุ้ยที่มาชวนอึ้งกว่า

logoline