สำหรับพื้นที่นำร่องประกอบด้วย พื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ และพื้นที่เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา
ส่วนยอดนักท่องเที่ยวสะสมของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ล่าสุดอยู่ที่ 23,734 คน มียอดการจองโรงแรมที่ได้เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564 จำนวนกว่า 415,910 คืน และยังคงมีเที่ยวบินเข้ามาอย่างต่อเนื่องทุกวัน
โดยนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรกมาจากสหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล ฝรั่งเศส และเยอรมนี และหลังจากปรับเป็นสูตร 7+7 ให้นักท่องเที่ยว“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” อยู่ภูเก็ตครบ 7 วันแล้วเดินทางไปพื้นที่นำร่องอื่นต่อได้ 7 วัน จึงจะสามารถเดินทางไปจังหวัดอื่นได้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มแซนด์บ็อกซ์ที่เดินทางออกจากพื้นที่ภูเก็ตทางบก ขณะนี้มีจำนวนสะสมอยู่ที่ 3,578 คน โดยปลายทาง 5 อันดับแรกคือ กรุงเทพฯ สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ และชลบุรี
ส่วนโครงการสมุยพลัสโมเดล ที่เชื่อมต่อกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น มีกลุ่มแซนด์บ็อกซ์เข้ามาแล้วเกือบ 400 คน มีจำนวนคืนเข้าพักแรม หรือรูมไนท์รวมเกือบ 3,000 คืน จำนวนวันพักเฉลี่ย 9 คืนต่อคน ประมาณการรายได้อยู่ที่ 17.28 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรกได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี สหรัฐ และเนเธอร์แลนด์
ส่วนเส้นทางการบินภูเก็ต-สมุย ซึ่งหยุดทำการบินชั่วคราวเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 จะกลับมาให้บริการอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมนี้ คาดว่ายอดนักท่องเที่ยวสมุยพลัสโมเดลจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน