23 สิงหาคม 2564 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ฝน ชลธิชา” ได้โพสต์คลิปวีดีโอเหตุการณ์ชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ สะพายย่ามสีเหลือง กำลังเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านบริเวณหน้าร้านขายก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่ง บริเวณตลาดเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมกับเล่าบรรยายในคลิปว่า “กลับมาอีกแล้วนะคะ ซื้อผ้าใหม่ด้วยนะคะวันนี้ นั้น…ขออีกแล้วนะคะ” โดยเจ้าของคลิปวีดีโอยังได้โพสต์ข้อความระบุด้วยว่า “ขอสอบถามหน่อยค่ะ ในกรณีทีมีคนแต่งตัวอย่างเป็นพระสงฆ์ เรี่ยไรเงินกลับโคราช จนเข้าสู่การจับกุม และตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด เจ้าตัวสารภาพเองว่าไม่ใช่พระ ต้องทำเพื่อหาเงิน นำเงินมาซื้อเหล้าและยาบ้าเสพ แต่มาวันนี้ มีคนเห็นที่ตลาด เลยโทรไปถามที่ สภ.บ้านไผ่ ตำรวจให้คำตอบว่า นำไปสึก และยึดของกลาง
ส่วนที่ว่าพบสารเสพติด ให้ถือเป็นคนป่วย เราบันทึกเสียงทีคุยไว้ด้วยนะ เราเลยถามว่า แล้วการที่แต่งตัวอ้างเป็นพระขอเรี่ยไรเงินแบบนี้ไม่ผิดหรือ ทำไมไม่จับนอนคุก ตำรวจว่าก็นำไปสึกแล้วไง จะให้ตำรวจตัดหัวเขาทิ้งเลยไหม ทุกท่านมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ค่ะ กฎหมายทำได้เท่านี้หรือกับคนผิด ตำรวจมีการย้อนถามเราว่าคุณรู้ได้ไงว่าเขาฉี่ม่วง ออกข่าวทุกช่องเลยค่ะคุณตำรวจ” ซึ่งภายหลังจากที่โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ต่างวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้ชายรายนี้ออกมาทำพฤติกรรมที่เป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านเช่นเดิม
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของคลิปวีดีโอดังกล่าว เล่าว่า คลิปวีดีโอนี้ ตนเองได้บันทึกเอาไว้ในช่วงค่ำของวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่กำลังขายของอยู่ภายในตลาดเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ก็พบว่า ชายรายนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จับกุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์แล้วเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน และข้อหาเสพยาเสพติด เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ผ่านไปเพียง 1 วัน ชายรายนี้ก็กลับมาห่มผ้าเหลือง ออกเดินเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านเช่นเดิม จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ พร้อมกับบันทึกเสียงสนทนาเอาไว้ ก็ได้คำตอบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวไปสึกแล้ว กรณีแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ก็ได้ทำการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว ตนเองจึงถามกลับไปว่า ถ้าชายคนนี้แต่งกายเลียนแบบพระแล้วถูกจับ แล้วนำไปเปรียบเทียบปรับก็คือไม่ต้องติดคุก ตำรวจก็ตอบกลับมาว่า “จะให้ตำรวจเอาไปตัดคอทิ้งเลยเหรอ…ตำรวจมีอำนาจหน้าที่เพียงนี้” ก่อนที่ตนเองจะถามว่า ขอทราบชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สนทนาอยู่ด้วยได้หรือไม่ แต่ตำรวจกลับบอกว่า ไม่ต้องทราบชื่อหรอก ให้ไปคุยกับร้อยเวรโดยตรง
สำหรับชายที่แต่งตัวเลียนแบบพระสงฆ์เดินเรี่ยไรเงินชาวบ้าน คือ นายพัฒนชัย สัพโพ หรือ “ทิดเหน่ง” อายุ 40 ปี ชาว ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ชายที่แต่งตัวเลียนแบบพระสงฆ์เดินเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดเทศบาลเมืองบ้านไผ่ โดยอ้างว่าจะเดินทางกลับวัดที่จังหวัดนครราชสีมา แต่มีพลเมืองดีเห็นผิดสังเกตจึงเข้าไปสอบถามพร้อมกับถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้ จนทราบว่าชายคนดังกล่าว ไม่ได้เป็นพระสงฆ์ที่บวชอย่างถูกต้อง แต่กลับนำผ้าเหลืองมาห่ม เพื่อหลอกลวงชาวบ้านว่าตนเองเป็นพระ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน ซึ่งต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จับกุมตัวได้ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณใต้สะพานข้ามทางรถไฟ ในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ พร้อมของกลาง ผ้าจีวร ย่ามสะพายสีเหลือง เปลสำหรับแขวนนอน กระป๋องเติมแก๊สและสายไฟอีกจำนวนหนึ่ง
และจากการตรวจปัสสาวะยังพบว่ามีการเสพยาเสพติดด้วย โดยในระหว่างสอบสวน เขารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และยังบอกอีกว่า หากพ้นโทษก็จะกลับมาห่มผ้าเหลือออกเรี่ยไรเงินเช่นเดิม ภายหลังสอบสวนเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนฯ ดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 208 ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ท้ายที่สุดเขาก็กลับมาเรี่ยไรเงินชาวบ้าน โดยการแต่งตัวเลียนแบบพระสงฆ์เช่นเดิม
โดย – กฤศเมธ โลโห