ผ่านไปครึ่งปีแรกถือว่าแนวโน้มการส่งออกของไทย ยังขยายตัวต่อเนื่อง เป็นเดือนที่5 ซึ่งในเดือนกรกฎาคมขยายตัวที่ร้อยละ 20.27 ทำให้การส่งออก 7 เดือนแรกของปีขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 16.20 แต่กระทรวงพาณิชย์เองก็ยอมรับว่าสถานการณ์โควิดเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบที่อาจทำให้ตัวเลขลดลง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน กรกฎาคม 2564 ซึ่งเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 มีมูลค่าถึง 22,650 . 83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวที่ร้อยละ 20.27 และถ้าหากสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันทองคำและยุทธถ้าปัจจัยออก ตัวเลขจะอยู่ที่ 25.38 ซึ่งเป็นผลจากการแก้ไขอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก รวมถึงปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง
ขณะที่การส่งออก 7 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัวที่ร้อยละ 16.20 โดยมีการขยายตัวในหลายกลุ่มสินค้าได้แก่สินค้าเกษตรและอาหาร ที่ขยายตัวเกือบทุกตลาดในตลาดสำคัญเช่นสหรัฐอเมริกาสาภาพยุโรป จีนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ ไต้หวัน ที่ขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง มีศักยภาพเติบโตที่น่าพอใจ
สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 24.3 และเป็นการขยายตัวแปดเดือนต่อเนื่องสินค้าตัวที่ขยายได้ดี เช่น ผัก ผลไม้ แช่เย็น แช่แข็ง ทำให้เจ็ดเดือนแรกของปี 2564 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมขยายตัวที่ร้อยละ 13.6
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 18.0 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้าโดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดีได้แก่รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลรวมเจ็ดเดือนแรกการส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 16.2
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเชิงลบด้านตัวเลขการส่งออกเช่นการระบาดของโควิดอาจมีผลกระทบต่อการผลิต เนื่องจากโรงงานหลายแห่ง ที่ผลิตเพื่อส่งออกถูกปิดตัวรวมไปถึงสถานการณ์โควิดในประเทศเพื่อนบ้านที่เริ่มมีการติดขัดในการข้ามแดน จึง ต้องเรียนแก้ปัญหาน่างานให้ดีที่สุด โดยไม่ให้มีภาคการผลิตติดขัด
ขณะที่แนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2564 มีแนวโน้มของการขยายตัวที่ดี
ซึ่งแผนส่งเสริมการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” และแผนงานของกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดไว้
เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกกว่า 130 กิจกรรมในครึ่งปีหลัง พร้อมจัดการเจรจาเพื่อเปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น ตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา เป็นต้น