svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ฝ่ายค้านพร้อมใจสับสตช.ของบซื้อปืนย้ำฟุ่มเฟือยไร้ประโยชน์

21 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ก้าวไกล-เพื่อไทย" แท็คทีมอภิปรายงบ “สตช.” ขอซื้อปืน 7,000 กระบอก พร้อมตั้งข้อสังเกตเร่งลงนาม หวั่นไม่ได้ของ ชี้ตำรวจไทยสะสมอาวุธสงครามมากกว่าสหรัฐฯ 5 เท่า ย้ำผลการศึกษาไม่ช่วยลดปัญหาอาชญากรรมลงได้

21 สิงหาคม 2564 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในมาตรา 27 งบประมาณส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง และหน่วยงานภายใต้การควบคุมดูแลของนายกรัฐมนตรี วงเงิน 37,303,062,700 บาท

 

โดย ส.ส.ในส่วนของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ต่างอภิปรายโจมตีปรับลดงบประมาณในส่วนของสำนักงานตำรวจแหงชาติ หรือ สตช. โดยเฉพาะการจัดซื้ออาวุธช่วงนี้

 

โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.งบประมาณฯ อภิปรายว่า การที่ สตช. ของบมา 32,000 ล้านบาท ซึ่งเกิดเรื่องแปลกใจตั้งแต่ในห้องอนุ กมธ.งบประมาณ ในวันที่กรมทางหลวงมาชี้แจง ปรากฎว่ามีผู้บัญชาการตำรวจทางหลวงมาด้วย และในวันที่กรมท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา มาชี้แจง ก็มีผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาชี้แจงด้วย ตนจึงดูรายงานว่าผิดหน่วยงานหรือไม่ เพราะหน่วยงานที่ไม่สังกัดสำนักนายกฯ คือ สตช. น่าจะอยู่ในมาตรานี้

 

ฝ่ายค้านพร้อมใจสับสตช.ของบซื้อปืนย้ำฟุ่มเฟือยไร้ประโยชน์

 

"แต่ก็มาถึงบางอ้อว่าตำรวจทางหลวง ขอใช้งบประมาณร่วมกับกรมทางหลวง ซื้อรถยนต์ตำรวจทางหลวง เช่นเดียวกับตำรวจท่องเที่ยว ที่ขอใช้งบร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ในเรื่องการปรับปรุงรักษารถยนต์ของตำรวจ ผมจึงขอสงวนความแห็นและแปรญัตติตัดงบไป 10% เพราะหลายหน่วยงานไม่ได้ของบจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรงเท่านั้น เหมือนผิดฝาผิดตัว และเป็นเรื่องที่แปลก" นายจิรายุ ระบุ

 

ทั้งนี้ ปีหน้าขอให้ตั้งงบมาที่ มาตรา 27 นี้ ส่วนหน่วยงาน ป.ป.ท. และ ป.ป.ง. ที่เป็นหน่วยงานจับทุจริตได้งบไปน้อยมาก ขณะที่สำนักงานส่งเสริมพระพุทธศาสนา ได้งบไปแล้ว ขอให้ช่วยทำให้วัดมีความจรรโลงให้คนไทยด้วย 

ด้าน นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ตนขอปรับลดงบในส่วนของสตช. โดยเฉพาะในโครงการจัดซื้ออาวุธสงคราม ที่มี 3 โครงการ ได้แก่ ปืนเล็กสั้น ปืนเล็กยาว และปืนกลมือ รวม 7,000 กระบอก เพราะฟุ่มเฟื่อย ไม่จำเป็น และการลงนามเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งหลายประเทศ ทั้งสหรัฐฯ ศึกษาผลกระทบการสะสมอาวุธสงครามว่าไม่ได้ช่วยลดอัตราการเกิดอาชญากรรม

 

นอกจากนี้ ยังพบมีแนวโน้มมีการใช้ความรุนแรงจากอาวุธสงครามกับประชาชน ส่วนประเทศไทยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตำรวจซื้ออาวุธสงคราม 80,303 กระบอก สะสมอาวุธสงครามมากว่าสหรัฐฯ 5 เท่า และซื้ออาวุธมากกว่า 25 เท่า ปัญหา คือ ปี 53-56 ซื้ออาวุธสงครามให้ตำรวจ 100 กว่ากระบอก แต่รัฐบาลนี้ซื้อมากกว่า 132 เท่า ราวกับจะตั้งกองทัพ ในชั้นอนุกมธ.ครุภัณฑ์ ตนพยายามปรับลด และให้ความเห็นสตช. ว่าเวลาที่ตั้งงบประมาณที่ไม่ได้ใช้ เวลาผลิตนานๆ ควรซื้อปีเดียวให้เสร็จ

 

ฝ่ายค้านพร้อมใจสับสตช.ของบซื้อปืนย้ำฟุ่มเฟือยไร้ประโยชน์

 

อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่าวันนี้ (21ส.ค.) มีการลงนามแล้ว จึงต้องตั้งคำถามว่าเพราะถูกตรวจสอบหรืออย่างไร ถึงรีบลงนามเหมือนกลัวไม่ได้งบประมาณ การปล่อยให้ตำรวจครอบครองอาวุธสงครามนั้น มีแนวโน้มที่ใช้กับประชาชน ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้ตำรวจไทยไม่ควรหันปืนยิงเข้าใส่ประชาชน และงบไม่ควรผ่านสภาฯ ไปในวันนี้ วันใดที่ปืนกระบอกใดกระบอกหนึ่งในนี้ หันเข้าหาประชาชน เลือดจะอยู่ในมือสมาชิกสภาฯ ทุกคนที่เห็นชอบให้งบนี้ผ่านไป

ขณะเดียวกัน นายพิจารณ์ ได้ลุกขึ้นหารือ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมว่า การใช้สื่อภาพต่างๆ ระหว่างการประชุมเป็นอำนาจประธาน ที่วินิจฉัยว่าภาพใดประกอบการอภิปรายได้ แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยชี้แจงสมาชิกก่อนอภิปราย ว่าภาพใดไม่ได้รับการอนุญาต เพื่อให้การอภิปรายราบรื่นไม่ติดขัด และตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา ภาพที่พรรคก้าวไกลจะใช้ประกอบการอภิปรายมีปัญหาจริงๆ

 

โดยส่วนตัวรูปภาพที่มีรูป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ถูกเจ้าหน้าที่เบลอภาพ ในขณะนี้พรรคการเมืองอื่นใช้ภาพ พล.อ.ประวิตร ไม่ถูกเบลอ และภาพพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยเช่นกัน และภาพรีสอร์ตศูนย์ฝึกอบรม ซึ่งเป็นภาพสีบางภาพถูกปรับเป็นขาวดำ เกรงว่าจะทำให้กระทบกระเทือนภาพลักษณ์ของประธาน ขอให้กำชับการทำงานตรงนี้ เพราะอดคิดไม่ได้ว่าพรรคก้าวไกลถูกเลือกปฏิบัติหรือไม่

 

ฝ่ายค้านพร้อมใจสับสตช.ของบซื้อปืนย้ำฟุ่มเฟือยไร้ประโยชน์

 

ด้านนายชวน กล่าวยืนยันว่า ไม่มีการเลือกปฏิบัติ แต่มีหน้าที่ตรวจสอบ การตรวจสอบภาพ ตนไม่ได้เป็นผู้พิจารณา แต่รองประธานฯ จะเป็นผู้ดูแลอนุมัติ ส่วนตัวให้ความเคารพเพื่อนร่วมงาน และอะไรที่เกี่ยวกับสถาบันจะระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ข้อความหรือเอกสารใดที่มีเจตนาอะไรก็ตาม มีเจ้าหน้าที่ดูแลและไม่เลือกปฏิบัติ ความเหมาะสมและเคารพผู้ใช้สิทธิ์ แต่ต้องอธิบายว่ามาอย่างไร และจะเป็นประโยชน์ต่อคนภายนอกอย่างไร

 

จากนั้น นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นหารือเพิ่มเติมว่า ประธานบอกว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่จากที่นายพิจารณ์พูดนั้น ก็มองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน โดยเฉพาะรูปของพล.อ.ประวิตร เจ้าหน้าที่ควรชี้แจงเป็นเอกสารที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการ ว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากอะไร และใครเป็นคนตัดสินใจ

 

ทำให้นายชวน กล่าวยืนยันย้ำว่า ตนยังไม่เห็นภาพและจะดูให้ ทั้งนี้ ไม่เหตุผลออะไรจะต้องเลือกปฏิบัติ ดีที่สุด คือ การตรงไปตรงมาและอยู่กับความเป็นจริง อภิปรายได้เมื่อเห็นว่าเหมาะสม แต่เมื่ออภิปรายไปแล้วก็ต้องเคารพอีกฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะการพิจารณารูปนั้น รองประธานฯไม่มีเจตนาเป็นอย่างไรอื่น ตรงไปตรงมา

 

จากนั้น นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า มาตรา 27 ตนปรับลดไป 13% โดยงบกรมตำรวจปรับลงน้อยมาก ขณะนี้ภาพพจน์ประเทศไทยเสียหายไปมาก เพราะมีนัดบอร์ดแถวแยกดินแดง เรื่องจัดการม็อบกับตำรวจได้รับคำตำหนิว่าลุแก่อำนาจมาก ซึ่งตนขอเตือนตำรวจชั้นผู้น้อยจะมีความผิด และชั้นผู้ใหญ่ก็ไม่รอดด้วย เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 บุคคลมีเสรีภาพในการชุมนุม และมาตรา 29 วรรคสอง ทุกคนเป็นจำเลยไม่มีความผิดก่อนได้รับคำพิพากษา แต่ตำรวจเข้าไปจัดการม็อบยิ่งกว่าคดีอาชญากรรมอีก เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ยิงกันเหมือนหนังคาวบอย 

 

จากนั้น นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า มาตรา 27 ได้รับงบ 37,303,062,700 บาท ซึ่งเป็นงบของสตช. 32,000 กว่าล้านบาท ถูกปรับลดไป 55 ล้าน ไม่ทราบว่าตั้งมาเผื่อต่อหรืออย่างไร ซึ่งการออกมาชุมนุมของเยาวชนตอนนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับ สตช. อย่างยิ่ง เพราะใช้หน่วยควบคุมฝูงชน (คฝ.) เข้ามาควบคุมสถานการณ์และเกิดความรุนแรงขึ้น โดยทำงานเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชน

 

ฝ่ายค้านพร้อมใจสับสตช.ของบซื้อปืนย้ำฟุ่มเฟือยไร้ประโยชน์

 

ทั้งนี้ การออกมาเรียกร้องของเยาชนเพื่อหาทางรอดจากวิกฤตและความล้มเหลวต่างๆ ของผู้บริหารราชการแผ่นดิน นี่คือความเจ็บปวดที่ออกมาเรียกร้องท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโควิด หลังประกาศยุติชุมนุมความรุนแรงเกิดขึ้นทุกวัน และสภาฯแห่งนี้ควรอนุมัติเงินให้ไปซื้อยุทโธปกรณ์มากน้อยแค่ไหน

 

อีกทั้ง สถานการณ์การชุมนุม มีการพูดว่ายิงเลยตรงนี้กระสุนไม่อั้น ตอนนี้ไม่ใช้หลักสากล แต่เป็นหลักสาแก่ใจมากกว่า แต่ปีนี้ คฝ. ขอกระมิดกระเมี้ยนมาแค่ 3 ล้านซื้อแผงเหล็ก แต่ปีที่แล้วขอ 883 ล้านบาท ไปซื้ออาวุธมาใช้กับประชาชน ถ้าเป็นตนไม่อนุมัติให้แม้แต่บาทเดียว

logoline