19 สิงหาคม 2564 เวลา 16.00 น. พ.ต.ต.ชิราวุฒิ เสี้ยมแหลม สารวัตรสืบสวน สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ควบคุมตัวนายพัฒนชัย สัพโพ หรือ “ทิดเหน่ง” อายุ 40 ปี ชาว ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ชายที่แต่งตัวเรียนแบบพระสงฆ์เดินเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดเทศบาลเมืองบ้านไผ่ โดยอ้างว่าจะเดินทางกลับวัดที่จังหวัดนครราชสีมา แต่มีพลเมืองดีเห็นผิดสังเกตจึงเข้าไปสอบถามพร้อมกับถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้ จนทราบว่าชายคนดังกล่าว ไม่ได้เป็นพระสงฆ์ที่บวชอย่างถูกต้อง แต่กลับนำผ้าเหลืองมาห่ม เพื่อหลอกลวงชาวบ้านว่าตนเองเป็นพระ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.พิชัยภูษิส จารุพงศ์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตาม ก่อนจะถูกชุดสืบสวน สภ.บ้านไผ่ จับกุมตัวได้บริเวณใต้สะพานข้ามทางรถไฟ ในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ พร้อมของกลาง ได้แก่ ผ้าจีวร ย่ามสะพายสีเหลือง เปลสำหรับแขวนนอน กระป๋องเติมแก้ส และสายไฟอีกจำนวนหนึ่ง และจากการตรวจปัสสาวะยังพบว่ามีการเสพยาเสพติดด้วย
จากการสอบสวน นายพัฒนชัยฯ หรือ “ทิดเหน่ง ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นบุคคลในคลิปวีดีโอที่มีการร้องเรียนจริง โดยก่อนหน้าที่จะเดินทางมาเร่ร่อนอยู่ในพื้นที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่ เคยบวชเป็นพระสงฆ์อยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้ประมาณ 10 ปี แต่ได้ถูกจับสึกจากความเป็นพระเพราะเมาสุรา หลังถูกจับสึกแล้วจึงเดินทางเข้ามาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น โดยได้แต่งกายเป็นพระเดินขอเรี่ยไรเงินจากญาติคนป่วยที่โรงพยาบาลขอนแก่น เงินที่ได้ก็จะนำไปซื้อยาบ้ามาเสพและซื้อเหล้ามาดื่ม ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ อ.บ้านไผ่ เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยตอนที่มาอยู่ที่อำเภอบ้านไผ่ ก็ได้ใช้วิธีแต่งตัวเป็นพระขอเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านในตลาดเช่นเดิม ผ้าจีวรที่ใช้ห่มก็ขอมาจากสามเณรที่วัดแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่าจะนำไปเป็นที่บังแดดบังลม เวลาที่ห่มผ้าจีวรก็จะสวมใส่ชุดลำรองอยู่ข้างใน โดยแต่ละวันจะได้เงินไม่ต่ำกว่า 200 – 300 บาท เงินที่ได้มาก็จะนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ วันละ 2 เม็ด และใช้พื้นที่ใต้สะพานข้ามทางรถไฟเป็นที่หลับนอน
ทั้งนี้ ในระหว่างการสอบสวนนายพัฒนชัยฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามว่า หากพ้นโทษออกไป จะใช้วิธีนี้หากินอีกหรือไม่ นายพัฒนชัยฯ ได้ตอบคำถามแบบมึนๆ ว่า ก็คงจะกลับมาทำอีกเพราะหาเงินได้ง่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ตอนนี้ชาวบ้านที่นี่รู้หมดแล้วว่าไม่ใช่พระจริง นายพัฒนชัยฯ ก็ยังตอบกลับอีกว่า หากไปขอที่จังหวัดอื่นชาวบ้านก็คงไม่รู้ว่าเป็นพระจริงหรือพระปลอม
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 208 ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดย - กฤศเมธ โลโห