กานีไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กจาก UAE เมื่อวันพุธ โดยแสดงความเห็นต่อสาธารณชนครั้งแรกหลังจากกระทรวงต่างประเทศของ UAE ยืนยันว่าให้ที่พำนักแก่กานีและครอบครัวด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า เขาหนีไปทาจิกิสถาน อุซเบกิสถาน หรือ โอมาน
ผู้นำ วัย 72 ปีปฏิเสธว่าเขาไม่ได้หนี แต่ต้องจากไปเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการนองเลือดและความโกลาหลในประเทศ และกำลังเจรจาเพื่อเดินทางกลับไปยังอัฟกานิสถาน พร้อมทั้งบอกว่า เขาจำเป็นต้องออกไปเพื่อไม่ให้คาบูลเป็นเหมือนเยเมนหรือซีเรีย
เขายังบอกด้วยว่า ข่าวลือที่บอกว่าเขาหอบเงินหลายล้านดอลลาร์ออกนอกประเทศไปด้วยเป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงและเป็นการโกหกอย่างสิ้นเชิง
คำยืนยันของเขาเป็นการตอบโต้ข้อกล่าวหาของทูตอัฟกานิสถานประจำทาจิกิสถานที่แฉว่า กานีหอบเงินของรัฐไป 169 ล้านดอลลาร์ และเรียกร้องให้ตำรวจสากลช่วยจับกุมตัวไว้
กานียังบอกด้วยว่า เขาได้รับการอพยพออกจากทำเนียบประธานาธิบดีโดยได้รับการคุ้มกันจากหน่วยอารักขาความปลอดภัย และรีบออกมาจนไม่ทันได้สวมรองเท้า และเวลานี้สถานการณ์คลี่คลายอย่างรวดเร็ว เขาอยากเจรจาเรื่องรัฐบาลที่มาจากทุกภาคส่วนกับตาลีบัน และสนับสนุนการเจรจาระหว่างตาลิบันกับอดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของเขา
UAE ซาอุดิอาระเบีย และปากีสถาน เป็นเพียงสามประเทศที่เคยให้การยอมรับรัฐบาลของตาลีบัน ที่เข้าปกครองอัฟกานิสถานช่วงปี 2539-2544 ก่อนหน้านี้ UAE เคยให้ที่ลี้ภัยแก่ผู้นำต่างชาติบางคน ที่เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีหรือถูกโค่นลงจากตำแหน่ง
ขณะที่นักการเมืองหลายคนในอัฟกานิสถานวิจารณ์กานีกรณีหลบหนีออกนอกประเทศอย่างกระทันหันเมื่อตาลีบันบุกเข้าสู่กรุงคาบูลเมื่อวันอาทิตย์ โดยอับดุลเลาะห์อับดุลเลาะห์ ประธานสภาสูงเพื่อการปรองดองแห่งชาติและคู่แข่งคนสำคัญของกานี บอกว่า “พระเจ้าจะให้เขาต้องรับผิดชอบ และประเทศชาติจะตัดสินตัวเขาด้วย”