ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ระบุเมื่อวันพุธ (18 สิงหาคม) ว่ากองกำลังทหารสหรัฐในอัฟกานิสาน ไม่มีศักยภาพในการที่จะช่วยพาผู้คนในกรุุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ให้เดินทางมายังสนามบินในกรุงคาบูล เพื่อการอพยพออกจากประเทศได้ เนื่องจากทหารมุ่งเป้าไปที่การรักษาความปลอดภัยที่สนามบินเป็นหลัก
ความเร็วที่กองกำลังตาลีบันยึดอัฟกานิสถาน ในขณะที่สหรัฐฯ และกองกำลังต่างชาติอื่น ๆ กำลังถอนกำลังออกมาหลังจากสงครามนาน 2 ทศวรรษ ได้ก่อให้เกิดความโกลาหลที่สนามบินคาบูล เมื่อนักการทูต พลเมืองต่างชาติ และชาวอัฟกันพยายามหลบหนีออกมา แต่คนเหล่านี้ ก็ต้องดิ้นรนอย่างหนัก แม้เพื่อที่จะไปให้ถึงสนามบิน จากปัญหาเรื่องฝูงชนจำนวนมาก และด่านตรวจของตาลีบัน
รัฐมนตรีบอกที่เพนตากอนว่า
“เราจะทำทุกอย่าง ที่ทำได้เพื่อพยายามขจัดความขัดแย้ง และสร้างเส้นทางสำหรับพวกเขา เพื่อที่จะมายังสนามบิน ผมไม่มีศักยภาพที่จะออกไป และขยายปฏิบัติการเข้าไปยังกรุงคาบูลในปัจจุบัน”
เพนตากอนบอกเมื่อวันพุธว่า ทหารสหรัฐที่ดูแลความพยายามในการอพยพที่สนามบิน ได้ยิงปืนขึ้นฟ้าในตอนกลางคืนเพื่อควบคุมฝูงชน แต่ก็ไม่มีการบาดเจ็บล้มตายอะไร
ออสตินบอกว่าสหรัฐมีกำลังประมาณ 4,500 นายในกรุงคาบูล และก็
"ไม่มีปฏิสัมพันธ์ในเชิงปฏิปักษ์กับกลุ่มตาลีบัน ขณะที่การสื่อสารของเรากับผู้บัญชาการฝ่ายตาลีบันก็ยังคงเปิดอยู่"
ด้านนายพลมาร์ก มิลลี่ย์ ประธานเสนาธิการกองทัพผสมสหรัฐ นายทหารระดับสูงสุดของสหรัฐ บอกกับนักข่าวว่า ไม่มีข่าวกรองใดที่บ่งชี้ว่ากองกำลังความมั่นคงและรัฐบาลอัฟกานิสถานจะล่มสลายภายใน 11 วัน อย่างที่ได้เกิดขึ้น
" หน่วยข่าวกรองได้ระบุอย่างชัดเจนว่ามีหลายสถานการณ์ที่เป็นไปได้ รวมถึงการยึดครองของตาลีบันหลังจากการล่มสลายอย่างรวดเร็วของกองกำลังความมั่นคงอัฟกันและรัฐบาล , สงครามกลางเมือง หรือการเจรจาสงบศึก เรื่องกรอบเวลาของการล่มสลายอย่างรวดเร็ว - ซึ่งประเมินกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งก็อยู่ในช่วงตั้งแต่หลายสัปดาห์ ถึงหลายเดือน และแม้กระทั่งหลายปีหลังจากการจากไปของเรา แต่ไม่มีอะไรที่ผมหรือใครเคยเห็น ที่บ่งบอกถึงการล่มสลายของกองทัพและรัฐบาลนี้ในเวลา 11 วัน”