วานนี้ 17 สิงหาคม 2564 นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) และ นายชัยชาญ ศรียงค์ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด. 33 เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าตำรวจภูธร ภาค 5 (ศปทส.ภ.5) นำหมายค้นศาลจังหวัดลำปาง เข้าตรวจค้นโกดังไม่ทราบชื่อ ถนนลำปาง-แม่ทะ ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
นายพนัชกร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือได้เฝ้าติดตามขบวนการค้าไม้ข้ามชาติผิดกฎหมายทำไม้มีค่า ประดู่ ชิงชัน พะยูง และมะค่า ส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งขบวนการค้าไม้ข้ามชาติดังกล่าวได้ว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปลักลอบตัดไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตป่าอนุรักษ์ ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำในเขตพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ทางภาคเหนือของประเทศไทย เมื่อทำการตัดไม้ แปรรูปไม้ด้วยเลื่อยโซ่ยนต์แล้ว จะนำรถกระบะดัดแปลง เพื่อขนลำเลียงชักลากไม้ออกจากป่า
"ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถสกัดดจับรถบรรทุกไม้ได้จำนวนหลายคัน และได้ขยายผลเข้าตรวจค้นจับกุมบ้านผู้ร่วมขบวนการทำไม้ข้ามชาติในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา และได้ขยายผลตรวจค้นโกดังเก็บไม้ของนายทุนรายใหญ่แห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ ก่อนส่งออกไม้ข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน"
สำหรับการตรวจค้นโกดังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ไม่พบบุคคลใดอาศัยอยู่ พบเพียงไม้หวงห้าม ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 105 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 11.882 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 831,600 บาท ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบหนังสือใบเบิกทางหรือหนังสือกำกับไม้แปรรูปที่ใช้แทนใบเบิกทาง
"ไม้ประดู่แปรรูปพบมีร่องรอยการแปรรูปด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ ผิวเนื้อไม้เป็นลูกคลื่นผิวไม่เรียบ มีลักษณะใหม่ สด ไม่เคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้อื่นใดมาก่อน"
เจ้าหน้าที่ได้สอบถามประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับโกดังดังกล่าว ได้รับข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีคนจากจังหวัดเชียงใหม่ มาติดต่อขอเช่าโกดังในราคา 62,000 บาท โดยเจ้าของไม่ทราบว่าจะเช่าโกดังเพื่อซุกซ่อนไม้ผิดกฏหมาย
สำหรับไม้ประดู่แปรรูปมีขนาดแผ่นใหญ่ มีความกว้างและหนา เป็นไม้ออเดอร์ของตลาดต่างประเทศ ซึ่งหากไม้ประดู่ล็อตนี้ส่งไปถึงลูกค้าในต่างประเทศ ไม้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไม้ทั้งหมดนำส่งสถานีตำรวจเขลางค์นคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป