เมื่อเวลา 15.00น.วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ที่ สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล พร้อมทนายความส่วนตัว ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ รามสวัสดิ์ ผกก.สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราชและพ.ต.ท.เกียรติก้อง หนูจันทร์ สว.(สอบสวน) สภ.สิชล พร้อมเอกสารจำนวนหนึ่ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม ในข้อหาหมิ่นประมาท พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และพ.ร.บ.โทรคมนาคม กรณีนพ.วิฑูรย์ ได้แอบอัดคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นพ.อารักษ์ กับ นพ.วิฑูรย์ กรณี นพ.อารักษ์ โทรไปทวงถามปรึกษาแนะนำให้ทาง นพ.วิฑูรย์ ทบทวนการสั่งซื้อชุดตรวจ ATK ที่มีคุณภาพกว่า และต่อมาทาง นพ.วิฑูรย์ กลับนำคลิปเสียงสนทนาไปให้สื่อมวลชนโจมตีตนเสียๆหายๆนั้น จึงเข้าแจ้งความเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและความเสียหายที่เกิดขึ้น
โดยเมื่อ นพ.อารักษ์ พร้อมทนายความเดินทางไปถึงได้มีกลุ่มพลังมวลชน ครูและอสม.ในพื้นที่และแพทย์พยาบาล รพ.สิชล จำนวนหลายสิบคนเดินถือช่อดอกไม้มาให้กำลังใจแก่นพ.อารักษ์ ในการสู้คดีเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีในครั้งนี้
โดย นพ.อารักษ์ เผยตนมั่นใจในพยานหลักฐานที่เตรียมไว้จำนวนมากแล้ว ส่วนสื่อมวลชนตนก็จะกันไว้เป็นพยานเท่านั้น เพื่อเอาผิด นพ.วิฑูรย์ หลายข้อหาหนัก ไม่เฉพาะข้อหาหมิ่นประมาท และผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ตนยังจะดำเนินคดีในข้อหาผิดตาม พ.ร.บ.โทรคมนาคม และกฎหมายความมั่นคง กรณีแอบอัดคลิปเสียงสนทนาไปเผยแพร่ทำให้ตนได้รับความเสียหาย ซึ่งทราบว่ามีโทษหนักจำคุก 5 ปีและปรับ 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งตนขอยืนยันไม่ยอมความอย่างแน่นอน ที่สำคัญความผิดกรณีแอบอัดคลิปเสียงสนทนา ไปเผยแพร่ยังมีความผิดวินัยโทษถึงออกราชการด้วย นพ.อารักษ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว.
ภาพ/ข่าว...ชชาดล เจริญพงศ์ / นครศรีธรรมราช