svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายเปิดโครงการ "สมุยพลัส" คาดเงินสะพัด 180 ล้าน

17 กรกฎาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โฆษกศูนย์ ศบศ.ระบุนายกฯ ปลื้มใจเปิดโครงการ "สมุยพลัสโมเดล" เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างชาติ เดินทางกลับมาท่องเที่ยวในไทย ตามรอย "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" คาดเงินสะพัด 180 ล้านบาท เล็งเปิดจังหวัดท่องเที่ยวเพิ่มอีก

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ ศบศ.กล่าวว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าเปิดการท่องเที่ยว ล่าสุดมีการเปิดโครงการ “สมุยพลัสโมเดล” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันเตรียมการ และผลักดันการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติสู่เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี

 

ตรงนี้ถือเป็นความต่อเนื่องจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สะท้อนถึงการบริหารจัดการด้านการแพทย์ และสาธารณสุขที่เป็นไปตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เบื้องต้นจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเข้ามาสมุย ระหว่างวันที่ 15 ก.ค. – 15 ส.ค.นี้ ราว 1,000 คน คาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 180 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเจาะกลุ่มลูกค้าเก่าของทั้ง 3 เกาะ เช่น กลุ่มยุโรป กลุ่มตะวันออกกลาง และกลุ่มครอบครัว 

 

ขณะที่มีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัด โดยมีการเปิดเส้นทางการบินระหว่างเกาะสมุย และเกาะภูเก็ต บินแบบวันเว้นวันด้วย

 

“ภายในเดือน ส.ค.64 จะขยายพื้นที่นำร่องไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้แก่ เกาะพีพี ไร่เล และเกาะไหง จ.กระบี่ รวมถึงเขาหลัก และเกาะยาว จ.พังงา จากนั้นในเดือน ก.ย.จะเริ่มในพื้นที่ทางบก ได้แก่ พัทยา เชียงใหม่ และบุรีรัมย์ ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโมโตจีพี”

 

ทั้งนี้รัฐบาลได้วางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายในประเทศคู่ขนานกันไป หลังจากออกมาตรการลดภาระค่าครองชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจออกไป มีเสียงตอบรับจากประชาชนทั่วประเทศ ขณะนี้ยอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ผู้ใช้สิทธิ์สะสม รวม 33.87 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 30,885.4 ล้านบาท

 

แบ่งเป็น 1.โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 20.70 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 27,922.5 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 14,105.7 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 13,816.8 ล้านบาท

 

2.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 46,447 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 354.9 ล้านบาท

 

3.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 12.46 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 2,477 ล้านบาท

 

4.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 665,464 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 131 ล้านบาท โดยใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า หรือผู้ให้บริการแบบพบหน้า (face-to-face) ก่อน ส่วนแนวทางขยายสิทธิในการสั่งซื้ออาหารผ่านผู้ประกอบการแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่และทางออนไลน์นั้น ขณะนี้ธนาคารกรุงไทยอยู่ระหว่างพิจารณาเงื่อนไขและพัฒนาระบบ โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการอีกสักระยะ เพื่อให้มีความพร้อม สะดวกต่อการใช้งานของประชาชนในอนาคต

 

สำหรับยอดการลงทะเบียนล่าสุดของวันที่ 15 ก.ค. 2564 โครงการคนละครึ่งมีการลงทะเบียนแล้ว 29.62 ล้านคน เหลืออีก 1.37 ล้านคนจะครบ 31 ล้านคน ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ลงทะเบียนแล้ว 490,860 สิทธิ เหลืออีก 3,509,140 จะครบ 4 ล้านคน ซึ่งกระทรวงการคลังจะเปิดให้ลงทะเบียนไปจนกว่าจะครบจำนวนที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564โ

logoline