กระทั่งเวลา 19.00 น.วันเดียวกัน เริ่มให้น้ำเกลือเจาะเลือด ให้ยากระตุ้นหัวใจ และยาเกลือแร่ลดความเป็นกรดในเลือด เบื้องต้นไม่มีภาวะเลือดเป็นกรด ไม่มีภาวะหัวใจขาดเลือด หรือติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากนั้นผ่านไปประมาณ 40 นาที พบว่าไม่มีการตอบสนอง ไม่มีคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และเสียชีวิต ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่า เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน และอยู่ระหว่างรอผลชันสูตรศพอีกครั้ง
มีรายงานว่า ทางญาติจะตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดชลประทานฯ โดยสวดอภิธรรมถึงวันเสาร์ที่ 5 มิ.ย.ก่อนจะทำพิธีฌาปนกิจวันที่ 6 มิ.ย.
สำหรับ "พล.ท.มนัส" หรือ "เสธ.แป้น" จบเตรียมทหารรุ่น 16 เคยนั่งตำแหน่งผู้บังคับการหลายหน่วยงานของกองทัพบก และเป็นอดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ.โดนจับคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา เมื่อปี 2558 ยุค คสช.ซึ่งตอนนั้น ไทยถูกจัดอันดับอยู่ในรายการสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี (Tip Report) อยู่ที่ Tier 3
โดยพฤติการณ์ของ "พล.ท.มนัส" กับพวกได้พาชาวโรฮิงญา ที่เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในไทย ตามช่องทางธรรมชาติ ด้วยการหลอกลวงว่า จะพาไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย แลกกับเงินจำนวนหนึ่ง แต่เมื่อมาถึง กลับจับขังในแคมป์บนเทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ซึ่งชาวโรฮิงญาบางคน ถูกทารุณด้วยการทุบตี และเสียชีวิต ก่อนถูกกลบฝังดินซ่อนเร้น
คดีนี้เจ้าหน้าที่มีหลักฐานการโอนเงินของ "พล.ท.มนัส" กับแก๊งค้ามนุษย์ชัดเจน จึงดำเนินการสั่งฟ้อง ซึ่งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2562 ศาลอาญา พิพากษาจำคุก "พล.ท. มนัส" เป็นเวลา 40 ปี ฐานร่วมกันฟอกเงินจากการค้ามนุษย์โรฮิงญา คดีนี้มีจำเลยทั้งหมด 54 คน และวันที่ 31 ต.ค.2562 ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกอีก 82 ปี ฐานสมคบกันค้ามนุษย์ คดีนี้มีจำเลยทั้งหมด 103 คน มีทั้งนักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่รัฐ และพลเรือนชาวไทย และเมียนมา ร่วมขบวนการ