ทั้งนี้ ในสาระของร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวพบการแก้ไขเพียงมาตราเดียว คือมาตรา2 ว่าด้วยระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายหลังจากประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้ว90 วันจากเดิมกำหนดเวลาที่ 180 วัน โดยมีเหตุผลเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกระเบียบระดับรองก่อนการบังคับใช้เพื่อให้มีเวลาชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน
โดยมี ส.ส. อภิปรายไม่เห็นด้วย กับการปรับแก้ไขระยะเวลาดังกล่าวอาทิ นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายเสนอให้แก้ไขเป็นการบังคับใช้ทันทีหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตนเองไม่เข้าใจว่าจะกำหนดเวลา 90 วันทำไม หากอ้างว่าเพื่อรอกฎหมายรองก็ควรถอนออกไป แล้วเสนอเข้ามาพร้อมกัน และการประวิงเวลาดังกล่าวนี้ อย่าอ้างความไม่พร้อมของระบบราชการ
ทางนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะ รองประธาน กมธ.ฯ ชี้แจงว่าเดิมกมธ.ฯต้องการให้มีผลบังคับใช้ทันทีแต่การบังคับใช้นั้น จำเป็นต้องมี ร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อมรองรับ โดยล่าสุดส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาลอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอเข้าสู่สภาฯอย่างไรก็ตามเมื่อหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เห็นว่า ระยะเวลา 90 วันจะเหมาะสมต่อการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนเวลา 180 วันอาจนานเกินไป
ขณะที่นายสมศักดิ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การกำหนดระยะเวลา 90 เพื่อให้เวลากับการร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อมที่เป็นกฎหมายรองในการควบคุมการใช้พืชกระท่อมไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงรวมถึงไม่นำไปใช้ผิดประเภทหรือนำไปผสมกับยาเสพติดชนิดอื่น
และทางด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การปรับระยะเวลาดังกล่าว ทำให้เกิดผลดีผลเสียที่ต่างกัน ซึ่งภาคธุรกิจที่มีกำลังจะเข้าถึงโอกาสการทำธุรกิจแบบใหม่มากกว่าธุรกิจรายได้น้อยทั้งนี้ในระยะเวลา 90 วันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำระเบียบรองรับและแก้ปัญหาด้านการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างไร
หลังสมาชิกอภิปรายเสร็จสิ้น ที่ประชุมได้ลงมติในมาตรา2 เห็นด้วยกับกมธ.ฯแก้ไขให้มีผลบังคับใช้ 90 วันด้วยคะแนน 326 เสียงไม่เห็นด้วย 5 เสียงจากนั้นลงมติในวาระสาม โดยเห็นชอบผ่านร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวฯ ด้วยคะแนน 319เสียง ไม่เห็นด้วย 7 เสียงงดออกเสียง 3 เสียงต่อจากนี้จะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป