
29 ธันวาคม 2563 ข้าราชการบำนาญ อายุ 70 ปี ได้มาร้องขอความเป็นธรรมโดยเปิดคลิปความยาว 7.57 นาที พร้อมบอกเล่าลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. เมื่อวานนี้ (28 ธค.) "น้องพีพี" มีศักดิ์เป็นหลานชายอายุ 8 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ 2 ร.ร.สุขานารี ระหว่างที่รอรถตู้มารับ-ส่ง ได้เดินไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "มาม่า" ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 บมจ.ซีพี ออลล์ สาขาบ้านพักหนองบัวรอง (09020) ถ.จอมสุรางค์ยารต์ ตั้งอยู่ด้านหลังสถานศึกษา เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา หลังใส่น้ำร้อนในถ้วยและจ่ายเงิน ขณะกำลังเดินออกมาพ้นประตูได้มีพนักงานหญิง ทราบภายหลังมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการประจำสาขาดังกล่าว ได้ล็อกตัวไว้ อ้างลักทรัพย์ที่มีของกลางเป็น "ขนมทาโร" อยู่ในกระเป๋ากางเกง
ช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนหลายสิบคนได้มาซื้อของและรอรถมารับ ทำให้หลานชายรู้สึกอับอายจากสายตาผู้คนที่เข้าใจเป็นคนขโมยของ ผจก.หญิง ใช้คำพูดหว่านล้อมสลับกับการขู่เพื่อให้หลานชายรับสารภาพมิเช่นนั้นจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ "น้องพีพี" ไม่ได้กระทำผิดจึงไม่ยอมรับและพยายามบอกว่า ขนมทาโรซื้อมาจากร้านสหกรณ์ของโรงเรียน ผจก.หญิง ไม่เชื่อจึงดึงตัวเข้าไปในห้องที่อยู่ภายในร้านและให้พนักงานชายเปิดดูคลิปย้อนหลัง เป็นเวลาประมาณ 7-8 นาที ไม่ปรากฏพฤติการณ์ลักทรัพย์ จึงยอมปล่อยตัวออกมา
เมื่อหลานชายกลับมาถึงบ้านพัก มีลักษณะผิดปกติ ไม่สนุกสนานร่าเริง อ้างวันนี้เหนื่อยมาก ตนจึงสอบถาม "น้องพีพี" ได้ยอมปริปากบอกเล่าให้ฟัง ต่อมานายสมพร ผู้เป็นพ่อและเป็นครูผู้สอนโรงเรียนมัธยมศึกษาชื่อดังใน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา รับไม่ได้ที่ลูกชายถูกกระทำเช่นนี้ จึงรีบเดินทางไปร้านเกิดเหตุ พบ ผจก.หญิง พยายามบ่ายเบี่ยงอ้างพนักงานหญิงคนดังกล่าวเลิกงานแต่ก็ได้บันทึกคลิปไว้ สภาพจิตใจของ "น้องพีพี" โดนคุกคามและมีคนมามุงดูจำนวนมากประกอบกับถูกพาไปอยู่ในห้องแคบ ๆ พร้อมพูดข่มขู่ เด็กอายุ 8 ปี ไม่สามารถทนต่อการกระทำได้ ทำให้เขาฝังใจอาจกลายเป็นเด็กซึมเศร้าและเก็บกด อับอายสังคมไม่กล้าไปโรงเรียน
การกล่าวหาเด็กหรือเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะกระทำผิด ควรแจ้งให้ครูหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพมาร่วมรับฟังด้วย เขาลุแก่อำนาจเอาตัวเด็กไปขังอยู่ในห้องนาน 7-8 นาที พยายามให้เด็กรับสารภาพทำเหมือนเด็กเป็นคนผิดเป็นคนขี้ขโมย ใครเป็นผู้ปกครองก็รับไม่ได้ ตนต้องการให้เป็นบรรทัดฐานทางสังคมและไม่ต้องการให้เกิดการกระทำเช่นนี้อีก โดยจะเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวและข้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป