svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

ญาติร่ำไห้ "เสี่ยเต้ย"ดับกะทันหันญาติ "เจ้อ๋อ"ร่วมไว้อาลัย

เสี่ยเต้ย90ล้านเสียชีวิตกะทันหัน พี่สาวและญาติช็อคไม่คิดว่าจะจากไปเร็วขนาดนี้ เผยก่อนหน้าป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบ และเคยบอกเป็นโรคซึมเศร้า ก่อนเสียชีวิตไปออกกำลังกาย กลับมาพบว่าขาบวม ไปหาหมอแต่เชื้อแพร่ลามเข้ากระแสเลือดดับ ด้านเจ๊อ๋อยันไม่สะดวกร่วมงานศพ แต่ญาติพี่น้องเจ๊อ๋อมาเคารพศพแล้ว บอกรักเสี่ยเต้ยเหมือนคนในครอบครัว

20 พฤศจิกายน 2563  นายสมภาร สุรัญกุล อายุ41 ปี หรือ เสี่ยเต้ย อดีตสามี นางวรรณลี ปัญญาใส อายุ48ปี หรือ เจ๊อ๋อ90ล้าน ได้เสียชีวิตลงแล้วอย่างกะทันหัน จากอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน นายสมาร หรือ เสี่ยเต้ย เป็นข่าวกรณี วิวาทะกับอดีตภรรยาผ่านทางสื่อต่าง ๆ โดยศพนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านพักเลขที่ 111 บ้านคำบอน ม.4 ต.หนองแสง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี 

ซึ่งร่างของ เสี่ยเต้ย หรือ นายสมภาร สุรัญกุล ถูกนำบรรจุในโลงเย็นสีทอง อยู่ภายในห้องโลงชั้น1ที่บ้านพักของเสี่ยเต้ยเอง มีภาพตั้งหน้าศพระบุ  เกิดวันที่ 18 พฤศจิกายน2522 เสียชีวิต19พฤศจิกายน2563หลังวันเกิดเพียงวันเดียว ซึ่งหน้าโลงศพตกแต่งด้วยดอกกล้วยไม้สีขาว ทำเป็นรูปหางนกยูง ตั้งข้างโลงศพทั้ง 2 ข้าง มีญาติพี่น้อง และคนรู้จัก เริ่มทยอยส่งพวงหรีดมาเคารพศพด้านนอกรั้วบ้านได้นำเต้นท์มาตั้งคอยรับแขก  โดยศพจะตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ไปจนถึงวันที่25พฤศจิกายน จะเคลื่อนศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดวัดป่าเทพสถิตนิมิตมงคล บ้านคำบอน 

ญาติร่ำไห้ "เสี่ยเต้ย"ดับกะทันหันญาติ "เจ้อ๋อ"ร่วมไว้อาลัย




นายสนอง สุรัญกุล พี่ชายของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า ก่อนหน้าน้องชายป่วยเป็นไข้หวัดกินยารักษาก็หายแล้ว หลังจากนั้นวันที่ 17 พฤศจิกายน น้องก็ออกไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า กลับมาก็ปวดขา ก็เอาขาแช่น้ำอุ่น แล้วทายาหม่อง เกิดปวดแสบปวดร้อนพองเหมือนถูกไฟลวก แล้วเอาน้ำแข็งมาถู จากนั้นขาน้องก็บวมผิดปกติมีรอยช้ำไหม้ แน่นหน้าอก ตอนแรกก็คิดว่าเป็นธรรมดาไม่ได้ไปหาหมอ แล้วเขาคงทนไม่ไหว จึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่บ้านใกล้กัน ให้พาไปโรงพยาบาลหนองแสง ตอนนั้นญาติพี่น้องไม่มีใครรู้ว่าน้องชายไปโรงพยาบาล เห็นทั้งเพื่อนน้องและตัวน้องไม่อยู่บ้าน คิดว่าเขาคงออกไปเที่ยว ตนยังคิดว่าน้องเจ็บขนาดนี่ออกไปเที่ยวได้ยังไง 

จากนั้นจึงโทรศัพท์ไปถามเพื่อนของน้อง ก็บอกว่าอยู่โรงพยาบาลหนองแสง พี่น้องจึงออกไปดูเห็นว่าเขาเหนื่อยหอบ และเห็นว่าน้องทำประกันรักษาตัวอยู่ จึงให้รถพยาบาลไปส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในตัวเมือง แต่ทางโรงพยาบาลบอกไม่มีสต๊อคคลังเลือด จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี บอกว่าน้องติดเชื้อในกระแสเลือด และมีภาวะอวัยวะภายในหลายอย่าง ที่น้องเป็นไวรัสตับอักเสบก่อนหน้า ที่มันกระทบกันหมด ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ต่อมาน้องเกล็ดเลือดต่ำ ตัวบวม แล้วตับไม่ทำงาน จนทำให้อาการหนัก มาเสียชีวิตประมาณใกล้เที่ยงคืน ซึ่งตอนนั้นญาติพี่น้องก็คอยกันอยู่ที่โรงพยาบาล 

ญาติร่ำไห้ "เสี่ยเต้ย"ดับกะทันหันญาติ "เจ้อ๋อ"ร่วมไว้อาลัย





นายสนอง  เปิดเผยต่อไปว่า พอรู้ว่าน้องเสียชีวิตทุกคนก็ตกใจพากันร้องไห้เสียใจ ก่อนหน้าน้องก็รักษาตัวโรคตับอยู่ แต่ไม่หายขาด จนน้องมาดื่มหนักช่วงที่เป็นข่าว แต่ก่อนเสียชีวิต ที่เป็นไข้เขาไม่ดื่มมา 2-3 วัน คิดว่าน้องรู้ตัวเขาเอง บอกว่าต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า พออารมณ์ดีก็บอกว่าคงอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี ดูว่าตัวเขาถ้าอยู่กับเพื่อนฝูงดูแล้วไม่ซีเรียส แต่ลึก ๆ ของเขานั้นถ้าอยู่คนเดียวเขาจะเครียดมาก จากเรื่องที่เกิดมาทับถมหลาย ๆ เรื่อง 

"ก่อนหน้าก็ไม่มีลางอะไร มีแต่ผมฝันมานานแล้วว่า พ่อที่เสียชีวิตไปนานแล้วมาหา บอกว่าอยากกินต้มเปรตปลาไหล แต่คิดว่าพ่อกินไม่ได้ เพราะแกเป็นริดสีดวงทวาร เลยเล่าให้เต้ยฟังสงสัยว่าพ่อคงมาบอกว่าให้ซื้อปลาไหลมาปล่อย แต่ก็ยังไม่ได้ไปปล่อยปลาไหลกัน แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าเป็นลางสังหรณ์อะไร เพราะตอนนั้นน้องก็ไม่ได้ป่วยไม่ได้เป็นอะไร ส่วนเรื่องทรัพย์สินเขาเคยบอกให้พี่คนโตจัดการ ไม่เคยรู้ว่ามีอะไรเท่าไหร่ เพราะไม่เคยไปยุ่งกับเขาในเรื่องนี้ ส่วนที่ให้เจ้อ๋อ  ไปก็ให้ดูแลลูกบุญธรรมที่เขารักมาก ซึ่งตอนนี้คนในครอบครัวเรารู้สึกว่ามันเฉาไปเลย เพราะเขาเป็นคนที่ทำให้ญาติพี่น้องสดชื่น บ้านเรามีพี่น้อง 5 คน ผมคนโตและเขาเป็นน้องชายคนเล็ก ที่เขาจะดูแลพี่ ๆ และญาติพี่น้องทุกคน" 

ญาติร่ำไห้ "เสี่ยเต้ย"ดับกะทันหันญาติ "เจ้อ๋อ"ร่วมไว้อาลัย





นายสนอง  บอกอีกว่า หากเจ้อ๋อ  จะมาร่วมงานศพ ทางครอบครัวเราก็ไม่ได้ห้ามไม่ได้ว่าอะไร แล้วแต่เขา เพราะเราไม่ได้ถือสาอะไรเขา ส่วนเขาจะอโหสิกรรมให้ไหมก็เป็นเรื่องของเขา เราไม่อยากไปก้าวก่ายอะไร ถ้ามาทางบ้านเราก็ต้อนรับเขาเหมือนเดิม แต่ก็อยากให้หมดเวรหมดกรรมกันไป 

ด้านนางระยอง คลื่นแก้ว อายุ 47 ปี สาวคนที่ 2 ของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า เต้ยเสียแบบกะทันหันแบบนี้ รู้สึกเสียใจมากทำใจไม่ได้เลย ก่อนหน้านี้แกเคยป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบมานานแล้ว ซึ่งช่วงนั้นแกก็หยุดดื่มเหล้ามานานมาก แล้วก็หันกลับมาดื่มอีก และดื่มหนักมาก ซึ่งหลังจากนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไง ส่วนเรื่องทรัพย์สมบัติของเต้ย คงต้องรอคุยปรึกษากับพี่น้องในครอบครัวก่อน เพราะว่าตนตัดสินใจเองไม่ได้ อยู่ที่พี่คนโตจะทำยังไง 

"ก่อนหน้านี้มีลางสังหรณ์ว่า แกมาพูดกับฉันว่าโกรธกันไปทำไมเดี๋ยวก็ตายจากกันไปแล้ว และก็พูดแบบนี้บ่อยมาก ถ้าไปเล่นกับฉันก็ไม่รู้ว่าพูดแบบนี้ทำไม ก่อนหน้านี้เราก็ไม่เห็นว่าแกมีอาการป่วย เพราะว่าเขาจะไม่ค่อยให้เห็น จะเก็บอาการได้ดีทำให้ไม่รู้ว่าเขาป่วย และอีกอย่างเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นข่าว ทำให้เขากลับมาป่วยหนัก เพราะคงทำใจไม่ได้มีแต่ปัญหาเข้ามาและเขาบอกว่าอยากจะตาย อยู่ไปปวดหัวกับปัญหา ฉันเลยบอกว่ามีเงินจะตายได้ยังไง เขาก็บอกว่าเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ ฉันบอกว่ามีเงินแล้วมาซึมเศร้าได้ยังไง ทำชีวิตให้ร่าเริง ที่ฉันบอกกับแกไป เพราะเวลาอยู่กับเรา ภายนอกดูเป็นร่าเริง แต่ในใจไม่มีใครรู้ เพราะอีกอย่างอยู่คนเดียวด้วยไม่มีคนค่อยให้คำปรึกษา" 

ญาติร่ำไห้ "เสี่ยเต้ย"ดับกะทันหันญาติ "เจ้อ๋อ"ร่วมไว้อาลัย


 
น.ส.หัดตี โนริญญา อายุ 39 ปี เพื่อนสนิทของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า เสี่ยเต้ยเคยพูดความทุกข์ในใจ หลังจากมีข่าวออกมาว่าเลิกรากันกับอดีตภรรยา และสุขภาพไม่ค่อยดี รวมทั้งห่วงลูกสาวบุญธรรมที่อยู่กับอดีตภรรยา เพราะมีความผูกพันกัน ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ แต่ทำทีมีความสุข โดยไม่แสดงออกมามีความทุกข์ใจ แต่เพื่อนทุกคนก็รู้ว่า เสี่ยเต้ยมีความทุกข์ใจอย่างมาก ตนและเพื่อนๆก็ให้กำลังใจมาตลอด ไม่คิดว่าเข้าจะด่วนจากไปอย่างกะทันหัน เพราะไม่มีวี่แววเลยว่าจะล้มป่วยถึงกับเสียชีวิต หากเสี่ยเต้ยยังมีชีวิตอยู่ อยากจะบอกว่า ให้หยุดพักผ่อนบ้าง อย่ามัวแต่แคร์ความรู้สึกคนอื่น ให้รักตัวเองมากๆ รวมทั้งให้เวลากับญาติพี่น้องด้วย ซึ่งปกติเขาก็ทำอยู่แล้ว 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ช่วงเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน นางหัด ปัญญาใส อายุ 85 ปี และ นางละมัย ปัญญาใส อายุ 60 ปี พีแม่และพี่สาวของ นางวรรณลี  หรือ เจ้อ๋อ 90 ล้าน พร้อมด้วยญาติ ได้เดินทางมาเคารพศพของ นายนสมภาร  หรือ เสี่ยเต้ย ซึ่งทางครอบครัวของเจ้อ๋อ และ คนในครอบครัวของเสี่ยเต้ย ได้ทักทายกันอย่างสนิทสนม พร้อมพูดคุยกับพี่น้องของเสี่ยเต้ย และจับมือให้กำลังใจคนในครอบครัวของเสี่ยเต้ย