จากกรณีที่อาจารย์คมกฤช ฤทธิ์ขจร ศิลปินร่วมสมัย นักอนุรักษ์ผ้าโบราณ เจ้าของศูนย์การเรียนรู้พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณชัยภูมิ ได้โพสต์ภาพ "สิมโบราณ" สมัยล้านช้าง ที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลบ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ที่ได้มี การบูรณปฏิสังขรณ์ จนไม่เหลือเค้าโครงเดิม ด้านนอกและในมีการโบกปูนทับ อิฐโบราณ พร้อมทั้งทางสีชมพู สร้างความเสียดายให้กับผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก
จากการสอบถามอาจารย์คมกฤช ทราบว่า สิมหลังนี้บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์เมืองภูเขียว ว่า เคยเป็นศูนย์กลางของความเจริญรุ่งเรือง โดยดูได้จากอิฐที่ใช้ในการก่อสร้าง เป็นอิฐแบบโบราณ ปูนที่นำมาก่อทำมาจากเปลือกหอยในลำน้ำพรม ประดับด้วยกระจกสี มีโลหะเป็นตัวหุ้ม ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับวัดสุทัศน์วนาราม ที่กรุงเทพมหานคร พื้นที่นี้ตั้งแต่สมัยล้านช้าง ไม่ต่างกับพระธาตุหนองสามหมื่น เป็นอิทธิพลล้านช้าง โดยมีศิลปะเชิงช่างญวนโดยมีกลุ่มกุลา หรือกลุ่มลาว เป็นผู้ก่อสร้าง
"มีโอกาสเข้ามาดูสิมเมื่อเดือนที่แล้วไปเที่ยวและถ่ายภาพก่อนมีการซ่อมหลายครั้ง ครั้งสุดท้าเห็นมีการเริ่มลงมือซ่อมแซม โดยเอาปูนไปอุดตามรอยแตก คิดว่าคงจะกันทรุดและเห็นนำหลังคาโครงเหล็กมาครอบ ไม่นานพบภาพในเฟซบุ๊กเห็นรูปที่มีการฉาบทับใหม่และทาสีแบบสมัยใหม่ ที่ผ่านมาเคยบอกผู้ใหญ่ในพื้นที่ว่า สิมหลังนี้สำคัญ เพราะบอกถึงประวัติศาสตร์เมืองได้เป็นอย่างดี จึงรู้สึกเสียดายกับการซ่อมแซมที่ทำให้คุณค่าทางประวัติศาสตร์หายไป"
อาจารย์คมกฤช กล่าวอีกว่า แม้เหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้เกิดความสูญเสียทางประวัติศาสตร์ ก็ไม่อยากให้ไปว่ากล่าวกัน เพราะเชื่อว่าทางชุมชนเองก็หวังดี เพราะต้องการอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลาน แต่อาจจะไม่มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์ การบูรปฏิสังขรณ์โบราณสถาน
สิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการต่อ คือการให้ความรู้กับประชาชน รวมถึงการรวมรวมความรู้ด้านประวัติศาสตร์เมือง พร้อมทั้งเชื่อมโยงให้เห็นถึงคุณค่า ความสำคัญ เพื่อให้ชาวบ้านในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ดูแลโบราณสถาน