svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

พาณิชย์แนะเกษตรกรใช้ "ไม้ยืนต้น" ค้ำประกันสินเชื่อกับธ.ก.ส.ได้

25 พฤษภาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กระทรวงพาณิชย์ แนะเกษตรที่ปลูกไม้ยืนต้นและมีปัญหาขาดแคลนเงินทุน สามารถนำมาจดทะเบียนเป็นหลักประกันทางธุรกิจกับสถาบันการเงินได้ ตามพ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ โดยให้สิทธิ์สมาชิกธนาคารต้นไม้ของ ธ.ก.ส.ก่อน สามรถยื่นเรื่องได้ทุกสาขา ธ.ก.ส.ทั่วประเทศ

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศลรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีข้อแนะนำถึงเกษตรกรที่ปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่ของตัวเองและมีปัญหาขาดแคลนเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินชีวิต ใช้จ่ายในครัวเรือนและการประกอบอาชีพ ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19สามารถที่จะนำไม้ยืนต้นที่มีค่ามาจดทะเบียนเป็นหลักประกันทางธุรกิจกับสถาบันการเงินได้


พาณิชย์แนะเกษตรกรใช้ \"ไม้ยืนต้น\" ค้ำประกันสินเชื่อกับธ.ก.ส.ได้

ล่าสุดกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)รับไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจแล้วโดยถือเป็นธนาคารแรกที่เกษตรกรสามารถใช้ไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงินตาม พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558


"การนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจเป็นการใช้ประโยชน์จากไม้มีค่าในพื้นที่ของตนเองสามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อได้โดยไม่ต้องตัดขายเพียงอย่างเดียว และไม้ยืนต้นยังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามการเติบโตของต้นไม้ และยิ่งในช่วงนี้ มีเรื่องโควิด-19ที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีพ การใช้ไม้ยืนต้นให้เป็นประโยชน์ก็เป็นอีกหนึ่งทางรอดของเกษตรกร" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว



สำหรับเกษตรกรที่ต้องการกู้เงินและใช้ไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ต้องเป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.และเป็นสมาชิกธนาคารต้นไม้ โดยสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งขั้นตอนการกู้เงินเป็นไปตามระเบียบของ ธ.ก.ส.ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อน


ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ไม้ยืนต้นเป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.2561 โดยมีแนวทางส่งเสริมให้ใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจทั้งเชิงพาณิชย์รวมทั้งส่งเสริมเชิงอนุรักษ์ผ่าน ธ.ก.ส.เนื่องจากเป็นธนาคารที่มีการดำเนินโครงการธนาคารต้นไม้ ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและ ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการนำร่อง ณ ศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบบ้านดอนศาลเจ้า อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดย ธ.ก.ส.ให้ผู้ที่ผ่านการอบรมผู้ประเมินมูลค่าต้นไม้ของ ธ.ก.ส.เป็นผู้ประเมินราคาต้นไม้ของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ทำให้การนำไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจสามารถดำเนินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว มากยิ่งขึ้นและจะมีการขยายโครงการดังกล่าวให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศอีกด้วย


ขณะเดียวกัน ธ.ก.ส.ได้นำร่องให้สินเชื่อแก่เกษตรกรที่มีการนำไม้ยืนต้นที่มีค่าที่ปลูกในบริเวณบ้านในพื้นที่จ.สุพรรณบุรีไปแล้ว จำนวน 44 ต้น ประกอบด้วย มะขาม 9 ต้น มะกอกป่า 1 ต้น สะเดา 14ต้น ตะโก 1 ต้น โมกมัน 1 ต้น งิ้วป่า 1 ต้น กระท้อน 1 ต้น มะเกลือ 2 ต้น ยอป่า 1ต้น มะม่วง 1 ต้น และไม้แดง 12 ต้น มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงินวงเงินสินเชื่อจำนวน 115,000 บาท


logoline